วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มาอ่านใจคนในตลาดหุ้น จากกราฟหุ้นตัวอย่างกันดีกว่าครับ มาลองดูตัวนี้ IT บทที่ 2

จากบทความ อ่านใจคนในตลาดหุ้น บทที่ 1 วันนี้เรามาต่อ บทที่ 2 กันครับ

จากตอนที่แล้วเราดูว่าหุ้นตัวนี้ IT มีรอบราคาเป็นยังไงตั้งแต่เริ่มเข้าตลาด สรุปง่ายๆตอนนี้คือ มี3 รอบใหญ่ ต่ำสุดประมาน 3 บาท สูงสุดประมาน 11-12 บาท ใช้เวลาการขึ้นจากต่ำสุดไปสูงสุด ประมาน ปีหรือปีกว่า ส่วนรายละเอียดนั้นกลับไปอ่านที่บทที่ 1 กันเองนะครับ

   
ในส่วนของบทที่ 2 เรามาจับตาว่ารอบนี้ ณ ตอนนี้ ราคาเป็นยังไง คนในตลาดที่เล็งหรือถือหุ้นตัวนี้อยู่คิดยังไง ก่อนอื่นมาดูกราฟราคาของหุ้นตัวนี้ช่วงขาลงนี้กันก่อนครับ



ผมแบ่งกราฟช่วงขาลงนี้เป็น4 ช่วง (ไม่ใช่ wave นะครับ) ตรงนี้เรามาดูกันว่าแต่ละช่วงคนคิดยังไง ในแต่ละช่วงเราจะวิเคราะห์คน วางแผน และปฏิบัติยังไง

1. ช่วงที่1 ที่เป็นกรอบสีเหลือง ช่วงนี้ ตรงนี้เป็นช่วงแรกๆ ที่เริ่มของขาลงนี้ ช่วงนั้นคนยัง เชื่อกันมากว่าหุ้นยังจะขึ้นต่อ เห็นได้จาก หลังจาก ราคาลงมาแล้วเด้งขึ้นไปไม่น้อย (ถ้าหุ้นปั่นฉาบฉวย มักไม่เด้งเกิน 61.8% ) ก่อนจะลง เกิดสัญญาน divergence จาก rsi ใน Time frame week และ จาก macd ใน Time frame day ยอดตรงนั้นมีขนาด 61.8% ของเวฟ 3 (ตรงนี้ใช้เวฟ 3 วัดเป้าหมายเวฟ 5 นะครับ)

จากสัญญานที่ได้ และขนาดเวฟ ถือเป็นคำเตือนให้ระวังแล้ว (ไม่ใช่ให้ขายเลยนะครับ) หลังจากนั้น ราคาลงมาที่ส่วนที่เป็นเวฟ 4 ของขาขึ้น หรือแถวๆ 8.5 บาท เลย ซึ่งตอนหลังถือเป็นเวฟ 1 ของขาลง ตรงนี้แหละเป็นต้นเหตุให้คนมั่นใจว่าที่เด้งขึ้นนี้อาจจะเป็นการขึ้นต่อ เพราะปกติเวฟ 5 มักจบที่เวฟ 4 นี่แหละ

แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำ new hi ถ้าไม่ทำ new hi สมมุติฐานจะกลายเป็น นั้นคือ เวฟ 2 ของขาลง และจะถูก confirm ว่าถูกต้อง เมื่อ มันเบรก ปลายยอดเวฟ 1 ตรงช่วงที่ 1 นี้ Volume ไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร

ช่วงนี้มันเป็นช่วงที่กำลังมีอารมณ์เพลิดเพลินกับการขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถึง2 ปีครึ่ง เรียกได้ว่าเพลิดเพลินกับ Summer เลยไม่รู้ ว่า Winter is coming. สารพัดข่าวดี อย่างที่เพื่อนๆในเพจเรา พูดไว้ (คุณ RVSS NUI STOCKs) ช่วงนั้นวีไอที่เป็นที่นับถือเข้า ด้วย ทุกคนเลยสบายใจ (Divergence ในกราฟ week ได้นี้ถือว่าเพลินมาก เพราะมันไม่ได้บอกเราแค่สัปดาห์เดียว ลายมันเกิดเป็นเดือนๆ กว่าจะรวมแท่งมาเป็น oscillator แต่ละตัว)

พูดมายาว ไอ้เจ้า แดดอุ่นๆนี่แหละทำให้คนยังไม่เชื่อว่า มันจะลง พวกมีหุ้นส่วนมากก็เลยยังไม่ขาย อีกส่วน อยากให้เบรกทำ new hi ก่อน ค่อยเข้า action เลยเกิดไม่มากนั้ก

 ส่วนจะขายทิ้งก็คือ จุดที่ 1 ทำ new hi ไม่ได้ (ซึ่งถือว่าเป็นเวฟ 2 ของขาลง) และจุดที่2 คือ ถ้าเบรกลง ตรง 8.5 ที่คาดว่าเป็นเวฟ 1 ของขาลง เบรกตรงนั้นก็นรกแตก เพราะเป็นเวฟ 3 เต็มตัว

สรุปช่วงที่ 1 
VOLUME ช่วงนี้ไม่เยอะ เพราะ เกิดความไม่แน่ใจขึ้นของสองฝั่ง (ความไม่แน่ใจนี่แหละทำให้จะโยนทิ้งหรือซื้อเพิ่มเกิดขึ้นไม่ได้ อันนี้สำคัญเดี๋ยวสรุปตอนท้ายอีกทีครับ) แดดอุ่นๆทำให้เราลืมสัญญานหน้าหนาว ราคาลงมา คนหวังรอเทสว่าจะทำ new hi ได้ไหม (ซึ่งไม่ผิดก็ควรทำแบบนั้น แต่จะให้ดีควรเซฟกำไรบ้าง)

2. ช่วงที่ สอง ตรงเส้นทีน้ำเงินช่วงนี้จะเป็นช่วง confirm หน้าหนาวแล้ว ครับ เบรก 8.5 หรือเบรกเวฟ 1 ถือเป็นการเข้าเวฟ 3 เต็มกำลัง พวกที่ยึกยักกระจ่างชัดแล้วว่า Winter is coming จริงๆ นับตั้งแต่ จบรอบแรกของหุ้นตัวนี้มา ครั้งนี้ถือเป็นช่วงโวลุ่มสูงสุด ไม่ต้องสงสัย ว่าข่าวผลประกอบการไม่ดีเหมาะที่จะออกสุดก็ช่วงนี้แหละ(อันนี้ผมไม่ได้เช็คเวลานะ แต่ ปีนั้นกำไรหายไปเกินครึ่ง ) จากรูปจะเห็นโวลุ่ม ช่วงที่ 2 นี้พุ่งปรี๊ดเลย รวมเวลา 8 เดือน มูลค่าหายไป ประมาน 60 %

สรุปช่วงที่ 2
ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนมากรู้ชัดแล้วว่า หน้าหนาวมันมาจริง ถูก confirm ครั้งที่ 1 ไม่ทำ new hi confirm ครั้งที่ 2 คือหลุด เวฟ 1 ที่ 8.5 นั้น เมื่อตลาดมั่นใจ (ความมั่นใจไม่ได้หมายแต่มั่นใจในเรื่องดีนะครับ) ความมั่นใจ คือ การไร้ควมคลุมเครือแล้ว ไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว นี่แหละ เป็นช่วงเวลาของ volume มันจะพุ่งเพราะคนไม่ต้องรอเช็คอะไรอีก

3. ช่วงที่ 3 ความหวังเล็กๆของคนที่หนีไม่ทัน ก่อนเริ่ม ช่วง 3  volume เริ่มลดลง เกิด สัญญาน bullish divergence ใน Time Frame day ตรงนี้เป็นช่วงหวังเด้ง เวฟ 4 ซึ่งเป้าหมายทางทฤษฏี มันขึ้นไปได้ถึง เวฟ 1 เลย(ถึงหรือน้อยกว่านั้น)Volume จึงเข้าช่วงนั้นอีกที  แต่ Momentum ช่วงที่ลงมามันแรงมาก เวฟ 4 ที่ว่า มันเลยมีความคลุมเครือสูงว่าจะขึ้นไปได้ไกลไหม นั้นจึงทำให้เด้งตรงนั้นสั้นๆ(และในกรณีที่แย่กว่านั้น ตรงนั้นอาจจะเป็นแค่เวฟที่ 4 ย่อยของเวฟ 3 หลัก)

สรุปช่วงที่ 3
ช่วงนี้เป็นช่วง ที่มีคนสองกลุ่ม ขัดแย้งกันสูง กลุ่มแรก คือคนที่คิดว่าจุด 100% ของเวฟ 1 นี้จะเป็นเวฟ c จบการลง กลุ่มสอง คือ ไม่ทันขายรอบแรกกะขายเด้งรอบ เวฟ 4 (ส่วนกลุ่มเก็งกำไรหลักๆผมว่ามันเผ่นกันหมดแล้ว) ความโหดความแรงของ Momentum ของการหลุดทำช่วงที่ 3 ยังกดให้ 4 ไม่สามารถขึ้นไปได้สูงมากนัก

4. ช่วงที่ 4 ช่วงปัจจุบันนี้ ทิศทางยังชี้ลง แต่ โวลุ่มมันน้อยลงเรื่อยๆเช่นกัน นั่นทำให้ Momentum มันแรงน้อยลงด้วย ทำไมเป็นแบบนั้น เพราะว่า พลังมันโดนปล่อยไปมหาศาลช่วง 2-3 ราคาที่ลงมาตอนนี้ มันจึงเอื่อยๆ

จาก ช่วงที่ 1 มาถึงช่วงที่ 4 นี้ถ้าใครยังไม่ขาย เขาก็คงไม่ขายแล้วละ และราคาตรงนี้มันมาใกล้เคียงกับ ฐานของ 2 รอบที่ผ่านมา (ดูที่ บทที่ 1) ซึ่งถือเป็นแนวรับที่ดี  ที่ราคา 2บาทกว่า จะทำให้สมมุติฐานที่ว่าตรงนี้เป็นเวฟ 5 ที่มีขนาดพอๆกับเวฟ 1 เป็นจริง  และตรงนั้น pbv จะต่ำกว่า 1 เท่าด้วย

ถ้ามีการเด้งสักหน่อยก่อนทำ new low จะยิ่งทำให้เห็นภาพการ divergence ชัดขึ้น ด้วยแนวรับสำคัญๆ และ การขายจำนวนมากที่ผ่านมา มันมากพอที่จะทำให้ เกิดความคลุมเครืออีกครั้งในเรื่องของการกลับตัว (Divergence) นั้นเป็นเหตุให้ Volume ตอนนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะคนต้องการนั่งสังเกตุการณ์ มากกว่า จะ take action อะไรสักอย่างในช่วงนี้ 

สรุปช่วงที่ 4
ช่วงนี้ ว่ากันตามอารมณ์ตลาดล้วนๆ เมื่อเทียบกับช่วง 2 กับ 4 นี้ ความอยากขายน้อยลงมาก แต่ความอยากซื้อก็ยังไม่ได้กลับมา ไอ้ความอยากที่น้อยลงมากสวนกับทิศทางนี้แหละคือความหมายที่แท้จริงของ divergence คนส่วนมากมักคิดว่า Divergence แล้ว ซื้อเลย ขายเลย กลับทิศแน่นอน ที่จริงมันคือสัญญานให้เราระวัง ให้จับตาให้ดีๆ

ถ้าเป็นการวิ่งแข่ง ตรงนี้ก็คือการ

  1. เข้าที่
  2. ระวัง
  3. ไป

ไอ้ตรงไปนี้จะไปไหนก็ดูทิศทางที่มันเบรกนั้นแหละครับ

ก่อนนี้ที่ผมเขียนโปรยที่หน้า page ว่า  Volume วันหวยออกแต่ละวันทำไมไม่เท่ากัน ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า เหตุการณ์ที่ทำให้ความคลุมเครือเหลือน้อยที่สุด นั้นแหละจะสร้าง Volume ไม่ทางไดก็ทางหนึ่ง

เราจะพูดกันในประเด็นที่ว่า ความมั่นใจ สร้าง Volume นะครับ ไม่ใช่ประเด็นว่าห้วยเด็ดหวยดังต้องถูกต้องได้เงิน

คนเล่นหวย ถ้างวดนี้ได้เลขเด็ด อาจารย์ดังมา ก็เท่ากับ กิเลศได้เบรกแนวต้านไปแล้ว อาจารย์ยิ่งดัง ความรู้สึกของเขาต่อความคลุมเครือว่าจะไม่ถูกยิ่งเหลือน้อย หลังจากความคลุมเครือทางความเชื่อเขาหมดไปเหตุการณ์ หลังจากนั้นก็คือ แห่ซื้อสิครับ หลังจากนั้น ความจริงก็ปรากฏเหมือนทุกงวด ไม่ต้องให้บอกว่าผลลัพธ์มันเป็นไง(แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นของเราคือ Volume ชะลอตัวเมื่อมีความคลุมเครือ และพุ่งกระหน่ำเมื่อความคุมเครือนั้นน้อยลงไปหรือหมดลง)

อันนี้เรื่องจริงประสบการณ์ตรง จากคนใกล้ชิด(ผมไม่ได้ขายนะ 555 )ยิ่งเลขเด็ดดัง มาเจ้ามือเห็น Volume แล้วต้องกลัว กลัวหมายถึงไม่กล้ารับหมด บ้างก็ลดเงินรางวัล บ้างก็แบ่งโยกไปให้เจ้าอื่นบ้าง นั้นถือเป็นการบริหารความเสี่ยงแบบเจ้ามือหวย 5555

คุณจะมองหาอะไรจากกราฟก็ตาม สิ่งที่ง่ายสุดขอให้มองหาสิ่งที่มันมี ไปมองว่ามันจะขึ้นไปเท่านั้นเท่านี้ มันมองหาสิ่งที่มันไม่มี โอเค มันมีวิธีว่ามองว่าอาจจะขึ้นไปไหนยังไงจริง ถ้ารู้ก็ดี มันมีประโยชน์ แต่ถ้าเอาสิ่งนี้สิ่งเดียวมาเทรด ถือว่าเสี่ยงมากนะ

มองให้ออกว่าเขาคิดอะไร กันอยู่ สิ่งที่เป็นไปได้มีอะไรบ้าง แล้วเอาสิ่งที่ได้จากการตีความนั้นไปทำจัดการกับระบบเรา มันคือเอาทั้งหมดที่ได้นั้นไปวางเงื่อนไข ถ้าไปทางนี้ เราจะทำแบบนั้น ไปทางโน้นเราจะทำแบบนี้ ตอนนี้คนคิดแบบนี้โอกาสทางไหนมากน้อยกว่ากัน ระบบใครระบบมัน จัดให้ดีไม่มั่ว โอกาสต่อยถูกมากกว่าวืดแน่นอน


ระยะสั้น หุ้นกำลังก่อ pattern เพื่อเทสทิศทางสั้นอยู่  ถ้าเด้งช่วงนี้เด้งจริงเด้งหลอกดูทิศทางประกอบ แล้วอย่าไปหวังรอข่าวดี มันจะมาก็โน้นแหละ ก่อนหุ้นตกสามวัน

ผีกิเลศที่หลอก เซอร์ ไอแซ็ค นิวตั้น จนเจ็งใน วิกฤตการณ์ เซาท์ซี เมื่อหลายร้อยปีก่อน มันก็ผีตัวเดียวกับที่หลอกคนเล่นหวยโลภๆที่มั่นใจเกินเหตุในเครื่องมือของตัวเองนี่แหละ 





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น