วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทำไมต้องระวังในการรับฟังข่าว เมื่อลงทุนในหุ้น

เนื่องจากมีเพื่อนๆถามหลายคนว่า ควรดูพื้นฐานบ้างไหม ตามข่าวบ้างดีไหม ต้องแกะงบเป็นไหม อ่านจากหนังสือ เราควรต้องแกะงบนะ ถึงเรียกว่านักลงทุนของจริง

"ตกลงเราเป็นนักลงทุนของปลอม ?"
แต่ปลอมก็ไม่ได้ปลอมจีนแดงนะครับ 5555 

เวลาเราอ่านหนังสือ หรือศึกษาเกี่ยวกับการลงทุน อย่าไปอ่านเหมือนหนังสือพวกนั้นเป็นพระไตรปิฏก ครับ

   
อย่าไปเห็นว่าเขาเป็นคนดังมีชื่อเสียง เป็น ‪#‎ซุปตาร์นักลงทุน‬ ที่เขาพูดทั้งหมดจะต้องถูกเจ๋งเป้ง ผิดไม่ได้ ใช้เหมือนเขายังไงก็สำเร็จ ตั้งข้อสงสัยไม่ได้ คิดไม่เหมือนถือว่าเราผิด ถ้าอ่านหนังสือแล้วคิดกับมันอย่างนั้น ผมว่าซื้อ สักสิบเล่มแล้วเอาไปถวายไว้ที่วัดดีกว่าครับ 

(มันไม่บาปหรอกนะที่เราจะสงสัยสิ่งที่ไอดอลของเราสื่อสารบ้าง ถ้าไม่สงสัยมันจะเข้าใจได้ยังไง)

- เวลาอ่านตั้งคำถามว่าเขาคิดยังไง มีทัศนคติยังไงกับเรื่องต่างๆแม้แต่การใช้ชีวิตยังไง แล้วมันเข้ากับเราหรือเปล่า
- อะไรเป็นแก่นที่เขาทำสำเร็จ มีปัจจัยอะไรบ้าง แล้วมันเข้ากับเราได้หรือเปล่า

เราจะไปเลียนแบบ วอร์เร็น บัฟฟเฟต์ ,ปีเตอร์ ลินซ์, หรือ ดร. นิเวศ ซะทุกอย่างแล้วหวังว่าเราจะสำเร็จเหมือนเขา น่าจะเหนื่อยอยู่นะ ปัจจัยของเขากับเราไม่เหมือนกัน

แต่การดึงเอาข้อดีของเขามาปรับใช้ของเราถือว่าเป็นเรื่องสุดยอดนะครับ

สิ่งที่ทำให้ผม ไม่เอาข่าว หรือแม้แต่ข้อมูลพื้นฐานแบบละเอียดยิบมาใช้ให้มากมายไขว้เขวเพราะว่า

1 กฏข้อสำคัญ ของดาวน์ ซึ่งผมเชื่อที่สุด(อันนี้ส่วนตัวนะ) ทุกอย่างอยู่บนกราฟ อารมณ์ ข่าว อุปสงค์ อุปทาน แม้แต่ "มีข่าวดีแล้วเจ้ามันมาแอบซื้อก่อนออกข่าว" "มีข่าวร้ายแล้วเจ้ามันแอบขายก่อนออกงบเน่า" ทุกอย่างจับสังเกตุได้ในกราฟ กราฟมันไม่ได้มีมิติแค่ เอาราคามาพล๊อท ตามวันนะ มันมีข้อมูลมากกว่านั้น 

2 ถ้าเราไม่ใช่คนแรกที่ได้ข่าว ข่าวนั้นแทนที่จะมีประโยชน์ รั้งแต่จะมีโทษมากกว่า เคยเขียนเล่าเรื่อง ข่าว(ไม่ใช่ข้าวนะ)มันเน่าเร็ว ยิ่งออกมานานเท่าไหร่ยิ่งบูดเร็วเท่านั้น รัประทานข่าวจากเน็ต ก็มีสิทธิ ท้องเสียกันละครับ

3 จากข้อ 2 ผมมักพูดเล่นเสมอ ถ้าเดินไปหน้าปากซอย แล้วถามคนแถวนั้นว่า "รู้ไหมผมลูกใคร" ถ้าเขาไม่รู้ ก็อย่าหวังถึงข่าวสดที่จะมีประโยชน์กับเรา

4 จากข้อ 3 ถ้าเวลาคุณไปกาบัตรเลือกตั้ง แล้วในใจลึกๆยังไม่เชื่อว่าหมอนี้ที่เรากาให้เนี้ย มันจะไม่โกงไหม ก็อย่าหวังว่า จะมีธรรมาภิบาลขั้นเทพ ข่าวและข้อมูลจากบริษัท บริษัทใหญ่ๆพวกนี้เขาก็เลี้ยงพวกที่เรากาให้ทั้งนั้น

5 ถ้าไม่เคยมีเจ้าของบริษัทยกหูโทรมาหาเลขาเรา แล้วชวนเราไปดูกินการเขา ก็อย่าคิดว่า จะได้ข้อมูลเทพ

5 นักบัญชี บริษัทเป็นคนจ้าง เราคนที่จะซื้อหุ้นเขาเนี้ยไม่ใช่คนจ้างเขาโดยตรง งบดีมากสำหรับ BBC สมัยก่อนเจ็ง เขาจะทำยังไงก็ได้ให้เราคนซื้อสบายใจที่สุดกับ งบที่ออก

6 ไม่ได้หมายความว่างบไม่ควรมีนะ มันต้องมี และนักบัญชีอีกเหมือนกัน ที่จะแปลมันให้ แล้วสุดท้ายมันก็จะไปอยู่บนกราฟอีกเช่นกัน

ในเมื่องบการเงินมันต้องมี แล้วทำไมถึงจะไม่ให้ความสนใจมันขนาดนั้นละ ไม่ได้บอกให้ไม่สนใจนะ สนใจดูหน่อยว่ามันเหมือนจะเจ็งไหม 

แต่ผมแค่ไม่คิดว่าผมจะสามารถเจออะไรที่คนส่วนมากมองข้ามไม่เจอ จากข้อมูล ที่ผมได้มา ซึ่งผมก็ยังไม่มั่นใจ อย่างแรงว่ามันจะตรงไปตรงมากับผมไหม มันจะ หลอกหมกเม็ดผมหรือไม่ แล้วผมควรเชื่อว่าคนเหล่านั้นเป็นที่หวังดีกับผมจึงเอาข้อมูลดีๆตรงไปตรงมามาลงเน็ตให้คนทุกคนเห็นหรือไม่

ไม่ต้องบอกก็รู้ผมเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย มันอาจจะทำให้เราน่ารักน้อยลงนิดหนึ่ง แต่บอกได้เลย มันมีประโยชน์ในดง กิเลศนี้แน่ๆ

ปล ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังไม่รู้ว่ามีข้อ 5 สองอัน ยิ่งอย่าเพิ่งไปยุ่งกับงบการเงิน 555

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น