วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Moving Average EMA SMA ใช้ยังไง ง่ายและมีประโยชน์แค่ไหนลองมาดูกัน

ต่อมามาดู เส้น MA Moving Average กันบ้าง สำหรับเส้นนี้ผมถือว่าเป็นเส้นสารพัดประโยชน์ มันต้องผ่านมือผ่านตาทั้งมือเก่ามือใหม่มาแล้วทั้งนั้น

ถ้าตลาดหุ้นเป็นหนังเรื่องหนึ่ง เส้น MA หรือ Moving Average นี้ก็ถือว่าเป็นดาราสมทบชายยอดเยี่ยม เป็นเพื่อนที่แสนดีของพระเอกนางเอก เป็นต้นกำเนิด และถูกใช้ควบคู่กับ INDICATORS หลายๆตัวครับ

เจ้าเส้น MA Moving Average นี้คือการนำข้อมูลย้อนหลังมาหาค่าเฉลี่ย แล้วพล็อทลงไปบนกราฟ ผมใช้คำว่า "คือการนำข้อมูลย้อนหลัง" ไม่ใช้คำว่า ราคาย้อนหลัง เพราะว่า ใน INDICATOR หลายๆตัวก็นำข้อมูลของมันมาหาเส้น MA ด้วยเหมือนกัน ไม่ได้ใช้แต่เฉพาะในราคาเท่านั้น
   

การหาค่าเฉลี่ยจะใช้ข้อมูลย้อนหลังกี่วันมาเฉลี่ยก็แล้วแต่เราตั้งค่าเช่น เอาข้อมูล 12 วันย้อนหลังมาหาค่าเฉลี่ย MA จุดแรกของกราฟก็จะถูก พล็อทลงเมื่อบนกราฟมีข้อมูลอย่างน้อย 12 อันใช่ไหมครับ ดังนั้นเราจะเห็นว่า เส้น MA ของแต่ละช่วงเวลาจะสั้นยาวไม่เท่ากัน MA ที่ใช้ 200 วัน จะมีเส้นสั้นกว่า 12 วัน เพราะกว่าจะเริ่มพลอท จุดแรกได้ก็ปาเข้าไป 200 วันแล้วเป็นต้น

ส่วน SMA EMA ต่างกันยังไง คำตอบก็คือ EMA เป็นการให้น้ำหนักกับข้อมูลที่ใกล้กับปัจจุบันเป็นหลัก ส่วน SMA ให้น้ำหนักกับทุกวันเท่ากันหมด ความที่สถานการณ์ตลาดมันเปลี่ยนได้ทุกวัน EMA จึงมักนิยมใช้มากกว่า SMA ครับ ให้ความสำคัญกับข้อมูลล่าสุดดีกว่า

ประโยชน์ของ เส้น Moving Average มีอะไรบ้าง คงไม่ไล่หมดเพราะเยอะมากเหมือนกัน เอาหลักๆที่เราต้องใช้ และถ้าตอนนี้เรายังไม่มีวิธีหรือความรู้อื่นที่ดีกว่ามาแทน ใช้ตัวนี้แหละ ง่ายและผิดพลาดน้อย

1 Moving Average MA บอกเทรนด์ของราคา เราจะใช้ ema บอว่าช่วงนี้เป็นขาขึ้น หรือลง หรือออกข้าง ก็คล้ายๆที่เราดูแท่งเทียนนั้นแหละครับ แต่ว่า การใช้ ema หลายเส้นมาร่วมกัน เช่น เส้น สั้น กลาง ยาว ตามแต่เรากำหนดว่าสั้นจะสั้นแค่ไหน ยาวจะยาวแต่ไหน มาวิเคราะห์ร่วมกัน จะทำให้เราเห็นภาพชัดๆมากยิ่งขึ้น หลักการก็คือ ถ้าเส้นสั้นตัดเส้นยาวกว่าขึ้น แสดงว่ามีเทรนด์ที่จะขึ้น ขาลงก็กลับกันเป็นเส้นสั้นตัดเส้นยาวกว่าลง

ตัวอย่างเช่น ถ้าหุ้นตกแรงมาแล้วเรากำลังเฝ้ามองอยู่ถ้าเส้น ema 12 ชี้ขึ้นตัดกับ ema 50 แล้ว ผมจะไม่บอกว่าจุดนี้ต้องรีบเข้านะ มันมีอีกหลายองค์ประกอบ ให้คุณพิจรณาสิ่งอื่นประกอบ เช่น เทรนด์หลักของตลาด โวลุ่มที่มีเข้ามา เป็นต้น แต่ความหมายของเส้น ema 12 ตัด ema 50 ขึ้นก็คือ ในช่วง 12 วันหรือ 12 แท่งที่ผ่านมานี้ ราคามันสวนทิศขึ้นมาดีกว่าในช่วง 50 วันหรือ 50 แท่งก่อนนี้มาก ถ้าโวลุ่มคอนเฟิร์มสักแท่ง ก็น่าตามอะไรแบบนั้น

2 Moving Average MA จำกัดสัญญานหลอก หรือ นอยส์ ของกราฟราคา เพื่อนๆคงเคยเจอแบบว่า ราคาขึ้นไปอยู่ดีๆ สมมุติว่าเราใช้ ema 12 วันเป็นตัววัดในระบบเทรดของเราว่า ถ้าหลุด เส้นนี้เมื่อไหร่เราจะขาย แต่วันดีคืนดีมันหลุดมาจึกหนึ่ง แล้วเราก็ขายตามระบบที่วางไว้ น่าปรบมือให้กับความมีวินัยของเรามาก

หลังจากนั้นสามวัน ราคามันกลับขึ้นไป เหนือเส้น ema 12 วันอย่างเร็ว แล้ววิ่งตลบไม่เห็นฝุ่น ปล่อยให้เรานั่งงง คิดว่านี้ระบบเทรดของตรูมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ เจ้าสิ่งนี้แหละที่เขาเรียกว่าสัญญานหลอก หรือ Noise

เราจะจำกัด เจ้า noise นี้ยังไง แนะนำให้ดูพฤติกรรม ในอดีตของหุ้นเป็นตัวๆไปเลย ถ้าเส้น ema 12 เป็นเส้นที่เร็วที่สุดของเรา ให้สร้าง ema อีกเส้นที่ช้ากว่าเส้นแรก โดยที่เส้นที่ 2 นี้จะเป็นตัวที่สามารถรองรับ noise ในอดีต ของหุ้นได้ ลองสร้างดูแล้ว ดูย้อนหลังไปว่า ราคาที่หลุดแล้วเด้ง ส่วนมากมันเด้งที่เส้นเวลาเท่านี้ของเราไหม เช่น อาจจะสร้าง ema 29 มาอีกเส้นให้วิ่งคู่กันไป

ถ้าราคามันหลุด ema 12 มาแล้วให้ระวัง ถ้าชน ema 29 ไม่หลุดก็อย่าเพิ่งขายมันอาจจะเป็น Noise แต่ถ้าหลุดอีก ก็ขายทิ้งไปเป็นต้น จำนวนวันใน ema นี้เป็นตัวอย่างนะครับ เอาไปปรับใช้เองว่าจะใช้กี่วัน แต่นะนำว่าชาวบ้านเขาใช้กี่วันก็ใช้เหมือนเขานั้นแหละ ไม่จำเป็นต้องอินดี้ตั้งไม่เหมือนคนอื่น เพราะเราใช้มันดูคนอื่นว่าเขาคิดยังไง เราไม่ได้ดูว่าเราคิดยังไงกับมัน

3 Moving Average MA ใช้เป็นแนวรับแนวต้าน ถามว่าทำได้ไหม ก็ตอบว่าทำได้ ถามว่าดีไหม ตอบว่าแค่ไม่เลว แนวรับแนวต้านที่สำคัญกว่าผมยังเชื่อว่าควรใชั Elliott Wave (อันนี้เราจะมาว่าละเอียดกันอีกที ที่จริงเคยเขียนแล้วในบล๊อกนะครับ) แนวต้านแนวรับหลักๆของ Moving Average สุดท้ายแล้วมักจะถูกเบรก ถ้ามันยังอยู่ระหว่างเวฟ  มีแต่แนวรับแนวต้านระยะยาวจริงๆเช่น ema200 วันเป็นต้น ที่สุดท้ายแล้วมีสิทธิ์จะเอาอยู่

ถ้าเราไม่รู้หรือไม่คิดจะศึกษา Elliott wave ก็สามารถใช้ ema นี้เป็นรับต้านแทนได้ แต่คุณอาจจะพลาดกินคำใหญ่ได้แค่นั้นเอง

4 Moving Average MA ใช้เช็คการบีบตัวของราคา ส่วนนี้จะคล้ายๆกับข้อ 3 คือการใช้หาแนวรับแนวต้าน เพราะว่า ราคามันจะบีบตัวก็ที่แนวรับแนวต้านนี่แหละ ถ้าราคาบีบตัวโดยเส้น ema หลายๆเส้นของเรามันบีบเข้าชิดกันขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่า ตรงนั้นเป็นแนวรับ หรือแนวต้านที่สำคัญ อีกไม่นาน จะมีการวิ่งแน่

ไม่ว่าจะเป็นวิ่งเบรก หรือ วิ่งหลุด ให้สังเกตุเทรนด์หลักประกอบ และ โวลุ่มครับ


ยังมีอีกมากมายที่เราใช้ประโยชน์ได้จาก Moving Average MA วันนี้เอาหลักๆเท่านี้ก่อน สำหรับ Moving Average MA นี้ บางคนไม่ใช้อย่างอื่นเลย ใช้ตัวนี้ตัวเดียว ทำกำไรมากมายก็มีให้เห็นนะครับ ข้อดีของมันคือง่ายทั้งการทำความเข้าใจของที่มามัน และง่ายทั้งการเอาไปใช้ แถมยังถือว่ามีประสิทธิภาพสูง เมื่อเทียบกับอะไรที่เข้าใจง่ายๆแบบนี้

สำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาศึกษาใหม่ Thai Trader แนะนำให้ศึกษาการใช้ Moving Average ให้แตก บางทีมันอาจจะเข้ากันได้ดีกับนิสัยส่วนตัวของเรา แล้วไม่จำเป็นต้องไปดูอย่างอื่นอีกเลยครับ

รอบหน้ามาว่ากันถึง ดาราสมทบฝ่ายหญิ่งกันบ้าง ใช้ดูเทรนด์แนวรับแนวต้านได้ดีและง่ายพอๆกับ Moving Average เป็นหนึ่งในเครื่องมือไม่ใช่ Indicator เพื่อนๆว่าเธอคนนั้นคือใคร ฮ่าๆๆ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น