วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ฟีดแบ็คหลังจากแนะนำให้ลองทำไดอารี่การลงทุนครับ

หลังจากนานแล้วที่เคยแนะนำให้ลองทำไดอารี่ในการเทรดของตัวเอง โพสกราฟของตัวเองโพสเนื้อเรื่องเนื้อหาที่เพื่อนๆศึกษามา

วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ช่วยในการตกผลีกความรู้ และทำให้เราศึกษาอยู่ตลอด ผมลองแล้วมันดีจริงๆจึงแนะนำต่อ

วันนี้มีชาวเพจหลายๆท่านที่ทักทายกลับเข้ามาพร้อมกับเอาเพจเอาบันทึกของท่านเองมาให้ดู บอกตรงๆรู้สึกดีใจนะ ปลื้มจริงๆ

ขอให้ทำต่อไป ทำเพื่อพัฒนาตัวเอง ครับ

สัขสันต์วันหยุดครับ

เก็บมาฝาก สถานการณ์เศรษฐกิจไทยหลังรัฐประหาร เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน

จากข่าวนี้  Indonesia Can Take Advantage of Political Turmoil in Thailand

เก็บมาฝากชาวไทยก่อนเปิดบ่าย

หอการค้าอินโดมองว่าเป็นโอกาสดีของดินโดที่จะสามารถฉวยโอกาสทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ความยุ่งเหยิงในไทย เพื่อดึงนักลงทุนไปที่อินโดแทน(อินโดได้เปรียบไทยเรื่องตลาดภายในที่ใหญ่มาก และค่าจ้างแรงงานถูกกว่า ส่วนไทยน่าจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่โอเคกว่า)

ตรงนี้สอดคล้องกับบทความหลายๆที่ที่บอกว่า

เงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากไทยไม่ได้ไปไหนไกล เพราะทั้งตลาดหุ้นและธุรกิจอื่นๆ ตลาดในเอเชียให้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เงินจึงโยกไปสู่ที่ๆมีความเสี่ยงน้อยกว่าในละแวกนั้นนั่นเอง

มาดูการวิเคราะห์กราฟหุ้น set Index และค่าเงินบาทกัน

ระหว่างแนวรับ ema200(ลูกศรสีเขียว) กับแนวต้านเส้น trend line(ลูกศรสีแดง) ใครจะชนะ ลุ้นด้วยกันครับ

เวลามันบีบๆแบบนี้ต้องระวังหน่อยนะครับ

นค่าเงินบาทก็ถ้ายืน 32.6 ได้ก็เตรียมอ่อน(ราคาตอนนี้ 32.65) ถ้าอ่อนแรงมันจะสะท้อนและคอนเฟิร์มทิศทางของฝรั่งที่ขายๆมาหลายวัน
แต่ถ้ายืนไม่ได้ย่อลงมาอีก ก็เป็นสัญญานที่ดีต่อตลาดหุ้น


สรุปการซื้อขาย ณ วันที่ 26 พ.ค. 2557 มูลค่าการซื้อขายรวม 45,499.36 ล้านบาท

#สรุปการซื้อขาย ณ วันที่ 26 พ.ค. 2557
มูลค่าการซื้อขายรวม 45,499.36 ล้านบาท

ข้อสังเกต เดือนนี้ หรือ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ฝรั่งขายเยอะๆตลอด แต่มีความขัดแย้งตรงที่เงินบาทไม่ได้อ่อนตัวมากมายอะไร ในช่วงนั้น เงินบาทมีกรอบรับต้าน ที่เป็นแนวออกข้างด้วยซ้ำครับ


โพสกราฟบ้าง ส่วนของเซท #ระยะสั้น มีจุดให้สังเกต แรงตามลูกศร สำหรับคนเล่นเร็วชอบเสี่ยง ก็เล็งกันเอา ส่วนระยะที่ยาวกว่านี้เดียวมาว่าอีกทีว่าถึงตรงไหน

โพสกราฟบ้าง ส่วนของเซท #ระยะสั้น มีจุดให้สังเกต แรงตามลูกศร สำหรับคนเล่นเร็วชอบเสี่ยง ก็เล็งกันเอา ส่วนระยะที่ยาวกว่านี้เดียวมาว่าอีกทีว่าถึงตรงไหน


อย่าเป็นทาสของเหตุผลให้เป็นนายของมัน

"อย่าเป็นทาสของเหตุผลให้เป็นนายของมัน "

คำพูดนี้เป็นแนวคิดหลักๆในการวิภาษหาข้อสรุป ผมไม่แน่ใจว่าต้นคิดมาจาก Hegel หรือ marx หรือเปล่า แต่น่าจะมาจากท่านใดท่านหนึ่ง ซึ่งทั้งสองมีความสำพันธ์กันทางความคิด

เริ่มที่ ปล ก่อนดีกว่า ปัญญา จะเรียกในภาษาอื่นว่ายังไงก็แล้วแต่ความหมายในที่นี้หมายถึงอะไรประมาณ การฟัง พบเจอ พูดคุยกับผู้รู้ เรียนรู้มาจาก #อดีต เช่น เรารู้ว่าเมื่อปาหินออกไปสุดท้ายแล้วมันจะตกลงบนพื้น เราไม่ได้รู้เรื่องนี้จากสัญชาติญาน(ถ้าอยู่ๆเราเกิดขึ้นมาในโลกแล้ววินาทีนั้นเราปาหินเราจะไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วหินจะตกลงบนพื้นเพราะความรู้นี้ไม่ใช่กระบวนการติดตัวอัตโนมัติแบบสัญชาติญาน) เรารู้เรื่องนี้เพราะ ความหมายของปัญญาที่ว่าก่อนหน้านั้นเอง ดังนั้นเราสามารถสรุปว่าเรารู้ว่าหินที่ปาออกไปแล้วจะตกลงบนพื้นได้ด้วยปัญญา กระบวนการปัญญานี้จะผลิตซ้ำอีก เมื่อเราตั้งปัญหาว่า ที่จริงอะไรทำให้หินต้องตกลง?

เกิดปัญหา->เสนอเหตุผล->พิสูจน์หรือถกเหตุผลนั้นๆ->สรุปโดยปัญญา --->นี่คือการใช้ปัญญาแก้ปัญหาโดยเหตุผลคือเครื่องมือ(เป็นนายของเหตุผล)

เกิดปัญหา->เสนอเหตุผล->ยึดติดกับเหตุผลที่ตัวเองเสนอ-->สรุปโดยใช้เหตุผลนั้น--->นี่คือการการใช้เหตุผลแก้ปัญหาไม่ใข่ปัญญา(เป็นทาสของเหตุผล)

เป็นนายของเหตุผลคือการที่เราระลึกได้เสมอว่าจุดประสงค์ที่เราจะเดินไปถึงสุดท้ายคือการแก้ปัญหา โดยใช้เหตุผลเป็นเครื่องมือ

เป็นทาสของเหตุผลคือการถูกเบี่ยงเบนให้แทนที่จะต่อสู้เพื่อแก้ปัญหากลับกลายเป็นต่อสู้เพื่อเหตุผลนั้นๆเปรียบเหมือนเราทำงานให้เหตุผลแทนที่จะทำงานให้การแก้ปัญหา

ยกตัวอย่าง ในส่วนของหุ้นในแบบเทคนิคคอล
1 มีหุ้นอยู่ในมือมีปัญหาขึ้นมาว่าจะขายตอนไหน?
2 เสนอเหตุผลเช่น เมื่อการไล่ราคาซื้อมีน้อยลง(หมีมา) แสดงว่าคนเริ่มอยากได้หุ้นนั้นในราคาที่สูงกว่านี้น้อยลงแล้ว แบบนี้ราคาอาจจะไม่ขึ้นไปอีก

3.1 การใช้เหตุผลเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา(เป็นนายของเหตุผล) หาวิธีพิสูจน์เหตุผลในข้อ 2 โดยวางเงื่อนไขตามแต่ประสบการณ์ของตัวเองที่ผ่านมาเคยเจอ เช่นกำหนดแนวรับตอนย่อ กำหนดแนวต้านตอนเด้ง ถ้าหลุดรับขาย ถ้าไม่ผ่านต้านขาย เป็นต้น เมื่อหลุดเงื่อนไขนั้น ปัญญาจะเป็นตัวบอกเราว่าควรขายไหม แบบนี้โอากสขายหมูจะมากน้อย ขึ้นอยู่กับปัญญาของตัวเอง(ประสบการณ์)นั้นตอบคำถามว่าทำไมเราต้องฝึกฝนไปในตัว
3.2 ใช้เหตุผล ข้อ 2 แก้ปัญหาไปเลย(เป็นทาสของเหตุผล) เห็นสัญญานของหมีมาปุ๊บขายเลย เพราะยึดมั่นในเหตุผลนั้นมากหมีมาแล้วต้องลงแน่ๆ จึงเชื่อและยืนยันเหตุผลนี้จนลืมเป้าหมายหลักไป วิธีนี้โอกาสขายหมูสูง สินค้าแต่ละอย่างมันไม่เหมือนกัน เราต้องไปศึกษาธรรมชาติของมันให้เกิดปัญญา เราถึงจะตัดสินใจได้ถูกต้อง ประสบการณ์=ปัญญา

ผมเขียนเรื่องที่ดูแล้วมันงงมันเหมือนไม่มีประโยชน์นี้ทำไม เพราะเรื่องนี้มันคลุกฝุ่นวุ่นวายอยู่ในเมืองไทย ผมไม่อยากยกตัวอย่างจากเรื่องการเมืองทั้งสองฝ่ายเพราะไม่อยากให้รู้สึกแย่กันเมื่อมีการเสนอว่าตรงนี้ตรงนั้นคุณอาจจะงงสับสนจนคิดผิด

แต่ลองตรองดูเถอะตอนนี้แต่ละฝั่งที่ฮาร์ดคอร์ในการเชื่อเหตุผลของตัวเองคุณกำลังตกเป็น "ทาสของเหตุผล" คุณไม่ได้ใช้เหตุผลเป็นเครื่องมือแก้ปัญหา

และเมื่อเรื่องนี้จบลงปัญหาจะไม่ถูกแก้(ซึ่งเรารู้อยู่แก่ใจ) เพราะคุณไม่ได้ต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาคุณต่อสู้เพื่อเหตุผลของตัวเอง!

ใครอยากเปิดร้านอาหารมาอ่านข้อความสั้นๆอันนี้ก่อนเปิดนะครับ

จำไว้นะครับ ใครจะเปิดร้านอาหาร สิ่งสำคัญสุดๆคือ สอนให้พนังงาน กวาดสายตาไปให้ทั่ว มันสำคัญมาก ควรเป็นข้อบังคับที่ซีเรียสเลย

ข้อนี้ข้อเดียวจะสร้างความประทับใจในการบริการได้เยอะมาก

ไปกินข้าวร้านไหนแล้วเรียกเด็กเสริฟสามครั้งยังไม่หันมามัวแต่มองพื้นจัองเพดาน

ลูกค้าจะมีความรู้สึกอยาก จะส่งจานข้าวบินไปสะกิดใกล้ๆแทน 5555

หุ้นตกควรจับตาแรงเพื่อหาจังหวะเก็บ

หุ้นตกควรจับตาแรงเพื่อหาจังหวะเก็บ

แต่อย่าเก็บมั่ว ไม่ใช่ทุกตัวที่ควรเก็บ แรงตกยังเหลือ(convergence) เข้าไปรับเลยก็คือรับมีด

แรงตกอ่อนกำลัง (divergence) ถึงน่าลุ้นน่าเก็บ

การดูจังหวะดูแรงถ้าศึกษาไปพร้อมๆกันคงมีวิธีของตัวท่านเองกันทุกคนแล้ว

ขอให้โชคดีในการเก็บครับผม

ก.ล.ต ผมอยากให้จัดการกับพวกคนที่เอาเปรียบคนอื่นให้ครบทุกคนด้วยครับเรื่องแบบนี้มีอีกเยอะอย่าเลือกจัดการ

จากข่าว ก.ล.ต.ปรับ'มณฑาทิพย์ ชินวัตร'9.6 ล้าน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทั้งจากสำนักข่าวและนามสกุลคนในข่าว ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับเอามาให้ดูเพราะว่า

อยากขอให้ กลต จัดการเอาจริงกับพวกไม่ซื่อสัตย์ ทำนาบนหลังเม่าพวกนี้ วงการหุ้นไทยจะได้เจริญก้าวหน้าครับ เอาถึงติดคุกเลยจะดีมากพวกจะได้กลัวที่จะเอาเปรียบคนอื่น

เป็นผมผมอายนะหากินไม่สุจริตน่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่หาบทความวิจารณ์หนัง Inside job ไม่เจอมาดูจากที่นี้

อันนี้จะเป็นบทความที่อธิบายหนังสารคดี เกี่ยวกับช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งแน่นอนมันเกี่ยวกับบ้านในโพสก่อนหน้านี้ ถ้าว่างลองไปอ่านเล่นตั้งแต่พาธแรกดูครับ

ปล ผมกลับไปอ่านแล้วเห็นว่าตัวเองเป็นคนพิมพ์ผิดเยอะมากยิ่งสมัยก่อนด้วย แต่ตอนนี้คิดว่าพัฒนาขึ้นมาบ้างนิดหน่อย จะพยายามเขียนให้อ่านง่ายๆผิดน้อยๆต่อไปนะครับ

ตามลิ้งค์นี้เลยครับ วิจารณ์ในแง่ มุนนักลงทุน
วิจารณ์หนัง inside job

วิเคราะห์เงินบาทเทียบ USD กันอีกครั้ง ทิศทางเงินอ่อนจะมีผลกับหุ้นยังไงมาดูกันต่อ

ค่าเงินบาททำท่าเบรกแล้ว แรงด้วยนะครับ อาการแบบนี้ชี้ว่าไม่ค่อยดีต่อหุ้น ถ้าเงินอ่อนแล้วหุ้นตกจริง เราก็มองข้ามช็อท ไปที่ เล็ง macd มันเลย ลูกศรแดงข้างล่าง ดูว่าถ้าทำ new hi ได้จะแรงกว่ายอดไฮที่แล้วสักแค่ไหน

ในกราฟวีค จะมีช่องให้ได้ลุ้น ไดเวอร์เจนซ์อยู่ครับ จากที่ผ่านมาเงินบาทไดเวอร์เจนซ์ระดับวันหลายๆรอบให้เห็นประจำ แต่ไดเวอร์เจนซ์ระดับ วีค ครั้งเดียว มักกลับตัวมาแข็งหรืออ่อนเลย ตรงนี้ลุ้นกันครับ

เหนืออื่นใด ชอบเครื่องมือไหนก็ใช้เครื่องมือนั้น ชอบอ่านงบก็อิงงบไปตามแผน ชอบอ่านคนอ่านโฟล์วในชาร์ทก็ทำไปตามนั้น


--------------------------------------------------------
พักนี้เห็นรายการทีวีที่ค่อนข้างตลกบ่อยๆ เลยมีคำเตือนขำๆแต่มีประโยชน์มากๆมาฝาก

เราควรมีระบบของตัวเองและซื่อสัตย์กับมัน เห็นทีวีบางทีเอาการวิเคราะห์หุ้นมาพูดคล้ายๆทำรายการก๊อซซิบดารา คนจะชอบกันมาก ถือว่าในทางธุรกิจเข้าทำแผนได้เยี่ยม แต่ในชีวิตจริงมันไม่ง่ายแบบนั้น

เพราะแบบว่าพูดเหมือนรู้ข่าววงในระดับไปแอบนอนใต้เตียงเขาแต่บอกไม่ได้นะว่ามีรายละเอียดยังไง เอามาพูดหรือเขียนต่อในสำนวนที่คนชอบ

ประเภทว่า ไม่มีหลักวิชาอะไรอ้างอิงสักอย่าง เอาราคาปิดมาเปิดประเด็นพร้อมกับพูดว่า "ฉันว่าแล้ว ! มันต้องเป็นแบบนี้ blahh blah บ้า"

พวกนี้มันแฝงมากับไอดอลในรายการทีวี และรวมถึงกระจายข่าวออนไลน์ด้วย ฟังแล้วคิดให้มากๆ เอาขำเอาฮาพอครับ

นักลงทุนอย่างเราต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก ศึกษาหาความรู้ พอเครียดแล้วค่อยไปดูรายการพวกนี้คลายเครียดเอาครับ

เด็กจบใหม่ตกงานกันเยอะ เราต้องต่างถึงจะมีงานทำครับ

ถึงน้องๆจบใหม่

ต้องหาเอกลักษณ์ให้ตัวเอง คนจบมาเยอะดูภายนอกจะเหมือนกันหมด เราต้องรีบหาจุดขาย หาเอกลักษณ์จุดเด่น ให้ตัวเองฉีกหนีออกจากคนส่วนมาก

ถ้าคิดจะเอาแค่ความรู้จากในรั้วไปสู้กันคุณจะถูกกลืน ทุกวันนี้โอกาสพัฒนาตัวเองด้วยตัวเองมีเยอะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องเข้าไปฝึกงานสถานเดียว คนจบออกมาเยอะ ต้องเพียรสองเท่า ฉีกตัวเองออกจากกลุ่มให้โดดเด่นได้ ก็สบายไม่มีปัญหา

เพิ่มเติม คุณ ตัน คือตัวอย่างหนึ่งของการทำให้ตัวเองไม่ธรรมดาเหมือนคนอื่น การประกาศตัวเอง(ทำ marketing ให้ตัวเอง)สมัยนี้ไม่ยากเหมือนที่คิด ทำผลงานและประกาศลงอินเตอร์เน็ตตั้งแต่ยังเรียนอยู่ได้ คุณจะมีภาษีกว่าคนอื่นเยอะมาก มันบ่งบอกว่าคุณเป็นนักเรียนรู้

สิ่งที่ประกาศลงถ้าเข้าถึงคนหมู่มากได้ก็ยิ่งดี ถึงจะเงียบๆก็ไม่เป็นไร เวลาไปสมัครงานเราเอาไปให้เขาดูได้ ถ้าทำสม่ำเสมอ มันแสดงให้เห็นความพิเศษของเราหลายอย่าง เป็นพอร์ทฟอลิโอของคนรุ่นใหม่

เพราะว่าเรายังใหม่ จึงควรทำให้เขารู้ว่าเราเป็นักเรียนรู้ เขาจะไม่สนสิ่งที่เราไม่รู้เลย ถ้าเขามั่นใจว่าเราเรียนรู้ได้

อย่าธรรมดา


ปรากฏการณ์แห่ทิ้งใบจองคอนโดน เก็บมาฝากระวังไว้ไม่เสียหลาย

เอามาฝากระวังไว้ไม่เสียหลายแต่คงไม่ต้องถึงขนาดตื่นตระหนก  จากข่าวนี้ ลูกค้าแห่ทิ้งใบจองคอนโด

เพิ่มเติม ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มดีขึ้นจริง อนาคตอันใกล้ คงลดเงินช่วยเหลือเศรษฐกิจลง แล้วเงินคงได้ไหลกลับไปทางโน้นเพิ่ม

เงินไหลกลับทำให้ เงินบาทจะอ่อน เพราะคนต้องขายเงินบาทเพื่อถือ usd ก่อนเอากลับ

เมื่อเงินบาทอ่อน อสังหาริมทรัพย์ที่สร้างกันเยอะมากช่วงที่ผ่านมาหลายๆที่กเขาก็ยังจำเป็นต้องใช้หนี้อยู่ครับ มันก็ใช้หนี้แพงขึ้นนั้นเอง

เงินบาทอ่อนมีผลกระทบเยอะ ทั้งหุ้นด้วย และส่วนของการนำเข้าทุกอย่าง ส่วนที่ให้ประโยชน์นั้นคงเป็นพวกธุรกิจส่งออกที่อิงกับวัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก

ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบว่าจริง ไปลงทุนกลุ่มไหนได้ประโยชน์ ควรเลี่ยงกลุ่มไหนจะเห็นลางๆ ให้ได้เตรียมตัวกัน

ทั้งหมดนั้นคือข้อสมมุติฐานว่าผลอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเกิดเหตุแบบที่ว่า

ค่าเฉลี่ย เส้น ma สำคัญกับการวิเคราะห์หุ้นทาง เทคนนิคคอลมากกว่าที่คุณคิด

ถ้าให้น้ำเป็นสารตั้งต้นของหลายๆสิ่งในโลกนี้ ค่าเฉลี่ยก็เป็นสารตั้งต้นของการตีความหมายกราฟราคา

อินดิเคเตอร์ (Indicator) จำนวนมากที่เป็นที่นิยมใช้กันมักมีต้นกำเนิดมาจากค่าเฉลี่ยนี้เป็นส่วนมาก

ต่างกันที่คนปรุงอินดิเคเตอร์จะเอาไปปรับไปผสมกับสิ่งอื่นยังไงเท่านั้น

ดังนั้นถ้าเราเน้นทำความเข้าใจค่าเฉลี่ยให้ดี การตีความอินดิเคเตอร์ต่างๆก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ลองแยกดูว่าค่าเฉลี่ยมันมีพื้นมาจากอะไร ในแต่ละกรณีที่ทำให้ค่าเฉลี่ยที่ได้ต่างกันมีปัจจัยอะไรบ้าง สังเกตุและตั้งคำถามกับมันเยอะๆ เราจะรู้ว่าค่าเฉลี่ยนี้มีหลายสิ่งที่เรามองข้ามไป

ตรงนี้สำคัญนะครับ สำคัญมาก อย่ามองข้าม ค่าเฉลี่ยไม่ได้มีแค่เอาเลขมารวมกันแล้วหารเอาค่ากลาง มันยังบอกลักษณะเฉพาะอีกมากมาย

ถ้าเข้าใจตรงนี้มันจะไม่แปลกเลยที่ต่างคนจะมีอินดิเคเตอร์ของตัวเองครับ


วิเคราห์เงินบาท usd ว่าจะอ่อนหรือแข็งในช่วงนี้

กราฟเงินบาทรูปแรก ระยะสั้น ช่องระหว่างลูกศรนั้น เป็นช่องแนวรับแนวต้านระยะสั้น ถ้าเบรก แนวต้านสั้นนั้นก็อาจทำเบรกต้านกราฟวันได้ด้วยครับ ส่วนแนวรับถ้าถูกเบรก จะเห็นว่ามีเส้น ema 200 รองไว้ที่ระดับวันอีกรอบ

1 ถ้าเส้น ema 200 ระดับวันนี้โดนเบรกอีกที แสดงว่ามีการเข้าถือเงินบาทเพิ่มขึ้นจริง ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ว่ามีเงิน us แลกเข้ามาซื้อเงินบาท "ใหม่" จริง ตรงนี้ก็มีแนวโน้มพอจะพูดว่าฝรั่งที่เข้ามาเดือนนี้อาจจะ เอาเงินเข้ามาเพิ่มจริงๆ ต่อไป ถือว่าทำให้หุ้นมีทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

2 ถ้าแนวต้าน ที่ว่าโดนเบรก นั้นก็ชี้ให้เห็นว่า ตอนนี้คนมันยังไม่ได้เข้ามาถือเงินบาทเพิ่มเพื่อลงหุ้น(ตรงข้ามกันกับข้อ 1 นั้นแหละ) ฝรั่งที่เข้าๆอยู่ก็จะมีความแน่นอนน้อย หรือถ้าฝรั่งยังเข้าสุทธิต่อไป ในเดือนหน้าอยู๋ ก็น่าจะเป็นเงินเดิมไม่ใช่เงินใหม่ ทั้งนี้ถ้าเบรกขึ้นจริง ในระดับวันหรืออาทิตย์ มีสิทธิ์เห็น bear divergence คือ จุดที่ต้องชั่งใจว่าจะขายเงินบาททิ้งต่อหรือไม่ จะกลับไปซื้อเงินบาทแล้วมาแช่ในหุ้นดีไหม

3 ในระยะยาว ถ้าเกิดข้อ 2 คือเงินบาทอ่อนไปอีกสักอย่างน้อย 33.20 ตรงนี้จะเป็นจุดวัด พอย่อปุ๊บ จะมีช่อง ให้เงินบาทแข็งมากที่สุดตั้งแต่เดือนกันยาปีที่แล้ว และถ้าเกิดตามสมมุติฐานที่ข้อ 2 จะเป็นช่วงที่หุ้นจะขึ้นแบบสบายใจมากกว่าตอนนี้

4 อันนี้เรื่องของตอนนี้ เงินบาท วิ่งเข้ากรอบที่แคบลงเรื่อยๆ จะเรียกว่าออกข้างก็ได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีทิศทางที่ชัดเจน จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า มีเงิน us ใหม่ๆเข้ามาแลกเงินบาทเพิ่ม เพื่อลงในหุ้นครับ

5 ถึงจะเป็นเงินเดิม สำหรับคนที่เล่นทุกรอบก็น่าตาม แต่ต้องระวังมากกว่ารอบที่ผ่านมาเยอะๆ

ส่วนกราฟเซทค่อนข้างเหมือนเดิม ดูอันเดิมล่างๆก็ได้ครับ

ว่าด้วยเรื่องการบินไทยหุ้น Thai วิจารย์กันขำๆ

จากกระทู้นี้ในเว็บ พานทิป --> http://pantip.com/topic/31966899

ไม่วิจารณ์กิจการอะไรให้มาก กิจการการบินที่ตั้งอยู่เมืองไทยตามภูมิศาสตร์แล้วมันน่าจะโอเค แต่ถ้าทำได้ไม่ดีนั้น หลายๆคนคงมีข้อสงสัยว่าทำไม ในใจของใครของมันซึ่งผมคิดว่าคงจะคิดคล้ายๆกันเยอะ

แต่มีจุดน่านำมาฝากคือ ธุรกิจที่แย่ๆจนถึงที่สุดก่อนออกหัวออกก้อย ว่าจะอยู่ต่อหรือจะเจ๊ง มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรแรงๆ แบบว่าดิ้นเฮือกสุดท้ายสิน่า

ตรงนี้จับตาดูกันครับ ถ้าเปลี่ยนแปลงตรงสิ่งที่เราตั้งข้อสังเกตุไว้ตั้งแต่ต้นว่าเป็นสาเหตุของความล้มเหลวได้จริง อาจจะเป็นหุ้นที่คุ้มค่า(ในเวลานั้น)

แต่สิ่งที่มักเกิดในสังคมเราก็คือ รัฐอุ้มแล้วทุกอย่างก็ยังเป็นแบบเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าออกทางนี้ก็เอเมน เป็นไปตามเวรตามกรรม

จะยังไงก็เอาใจช่วยแล้วกันครับ

ดูกราฟ เซ็ทอินเด็กซ์ set index กันหน่อย

ช่วงนี้งานเยอะมากว่าจะมาสรุปวันก่อนก็ไม่ได้ทำ แต่กราฟเก่ายังใช้ได้ เส้นขาวนั้นยังไม่เบรก แต่ก็ยังไม่หลุดเส้นแนวรับสีแดงข้างล่าง

ยังได้ลุ้นกันต่อไป แต่ถ้าหลุดเส้นแดงข้างล่างต้องเริ่มปรับแผน รับมือ จะไปรองเก็บที่ไหนว่ากันอีกที ตอนนี้ราคาวิ่งเข้ามุมไปก่อน

กำลังอ่อนมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วครับ จากนี้ไปถ้าย่อถ้าอะไรยิ่งฝรั่งเก็บยิ่งจะเห็นชัด งวดเข้ามาทุกทีครับ

เอาอันเดิมตามนี้นะครับ

กราฟเซทสั้นกับยาว เส้นขาวนั้นถ้าเบรก ต้านสำคัญๆจะอยู่อีกไกลพอสมควร ส่วนรายละเอียดร่วมกับค่าเงินบาท สรุปพร้อมกันตอนเย็น รวมถึงมูลค่าการซื้อขายครับ




กรูรู้ทำนายฟองสบู่ธุรกิจไอทีแตก รุนแรงกว่าเดิม

เอาข่าวอ่านเล่นมาฝาก

เพิ่มเติมนิดหน่อย ธุรกิจไอทีของไทยเราส่วนมากเป็นแบบเดียวหรืออย่างน้อยก็ คล้ายๆ กับธุรกิจขายของ หรือ รับจ้างทำมากกว่าตรงนี้แตกต่างกับเมืองนอกที่ขายไอเดีย จากตรงนี้ในเมืองนอกความไม่มั่นคงของไอเดียจึงเป็นปัญหามาตั้งแต่รอบก่อน

คนส่วนหนึ่งจึงเตือนเรื่องความเข้าใจยากของธุรกิจไอที หรือ ธุรกิจที่ขายไอเดียพวกนี้

ผมทำธุรกิจพวกนี้อยู่อยากบอกว่า ธุรกิจไอที(ไอเดีย) มันต้องทำงานสองชั้นเป็นอย่างน้อย ไม่เหมือนทำแล้วขายเลย ทำแล้วคนชอบไหม ถ้าชอบถึงหาวิธีหาเงินอีกที ตรงนี้คนวงนอกจะบางทีจะเข้าใจมันยาก

ไว้ว่างๆจะมาเขียนเรื่องนี้ ห่างหายกับการเขียนยาวๆน่าเบื่อๆมาพักใหญ่แล้ว

อ่านข่าวที่ว่าได้ที่นี้้
กรูรู้ทำนายฟองสบู่ธุรกิจไอทีแตก รุนแรงกว่าเดิม

ปิดคอมวันหยุดมาหลายวัน วันนี้ลงกราฟสักหน่อยนะครับ วิเคราะห์กราฟเซ็ทอินเด็กซ์ ตลาดหุ้นไทย set index

ปิดคอมวันหยุดมาหลายวัน วันนี้ลงกราฟสักหน่อยนะครับ อันแรกเป็นกราฟวันของ set ราคาตอนนี้เข้ากรอบบีบของแนวรับแนวต้าน ของเส้นเลข 2,3 ตรงนี้ถ้าเบรกได้ ต้านต่อไปคือ 1451 ครับ แต่ถ้าหลุดเส้นเลข 2 ลง อันนี้ต้องรีบเซฟตัว สังเกตุ macd ประกอบกันครับ

ในกราฟที่ 2 เป็นกราฟในระดับ 120 นาที เราเห็น macd เริ่มเตือนในระดับวัน เราก็ต้องวางเงื่อนไขเหมือนที่เคยบอกในโพสล่างๆ "เส้นเงื่อนไข" ตามศรชี้เลยตรงนี้ถ้าหลุดคงต้องมีแผนเซฟตัว ส่วนแนวต้านต่อไป ในระยะสั้นจะเป็น 1435 แนวรับ 1391 และแถวๆเส้นเงื่อนไขนั้นแหละครับ

เอาแนวต้านและแนวรับของระดับวัน กับ 120 นาทีไปพิจรณาประกอบกันเพื่อใช้ร่วมในการเทรดครับ

เดียวไปดูเงินบาทต่อ ตามลิ้งค์นี้ วิเคราะห์ค่าเงินบาท

การวิเคราะห์ค่าเงินบาท ว่าจะอ่อนหรือแข็ง ดูตรงไหนยังไง

ต่อไปมาดูกราฟค่าเงินบาทกันหน่อยนะครับ กราฟแรกเป็นระดับวัน ดูแนวรับแนวต้านต่างๆ ตรงราคาแถวๆวงกลมนั้น เป็นแนวรับจากเทรนด์ไลน์ที่กำลังเทสอยู่ ตรงนี้จะเอาอยู่หรือไม่ ดูแรงแล้วมันเป็นจังหวะให้ได้ลุ้นย่อ สุดท้ายราคาอาจจะเด้งขึ้นไปอีก แต่มันจะดูฝืนๆขึ้นเรื่อยๆ คือ divergence อาจจะเห็นชัด ตรงนี้สังเกตุร่วมกับกราฟเซ็ทข้างล่างมันจะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับเงินบาทนี้

ในรูปที่สอง เป็นกราฟไทม์เฟรมระยะสั้นลงมา ถ้าเริ่มนับจากขาลงคือเงินบาทแข็งรอบนี้ ถ้าใครชอบดูเวฟหรือ ดูด้วยกันมาสักพักแล้วคงจะดูออก สังเกตุประกอบกับ macd จะยิ่งเห็นชัด ถ้าคนชอบ pattern ก็จะมีคิดในใจแล้วว่าอาจจะเกิดหัวไหล่อะไรแบบนั้น (อันนี้ผมไม่สันทัด)



เอาง่ายๆแนวรับที่น่าจับตาตอนนี้คือที่ แถวๆปลายศรแดง 32.3 ประมานนั้น ถ้าตรงนี้ไม่หลุด ก็อย่าเพิ่งไว้ใจว่าฝรั่งเข้ามาแล้วจริงๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่แผนใคร ไม่มีการแนะนำกันมาก แต่เอาพอหอมปากหอมคอ ถ้าไม่เล่นสั้นจริงๆ เริ่มวางเงื่อนไขเก็บบ้าง แล้วถ้ามีย่ออีกทีในเซท ก็ถือข้ามไปเลยก็คงไม่ใช่ปัญหามากมาย

แต่อย่างที่บอกครับแผนใครแผนมันคิดเอาเองวางแผนเอาเอง

การถกเถียงเรื่องการใช้ เทคนิคคอลในการวิเคราะห์หุ้น ว่าทำได้จริงหรือ

เวลามีข้อข้องใจ อันไหนอยาก ถก อยากถาม ถามในนี้ถ้าผมรู้ผมก็ตอบ ถ้าไม่รู้ หลายๆครั้งก็มีเพื่อนๆ เข้ามาช่วยตอบอันนี้สร้างสรรค์นะครับ อันไหนผิดจะได้รู้อันไหนถูกจะได้เข้าใจกัน

แต่ถ้าเห็นเข้ามาพิมแบบไม่ได้รับการสั่งสอนจากครอบครัวผมก็คงขออนุญาตลบและแบนไป ไม่สามารถเสวนา กับคนแบบนี้ได้จริงๆ เสียประสาทครับ

คนที่คิดว่าดูกราฟแล้วทำให้รวย และที่คิดว่าดูกราฟคืออะไรที่โง่มาก คนทั้งสองประเภทนี้เป็นอะไรที่แตกต่างและสุดขั้วทั้งคู่

และจำนวนมากที่ใช้อีโก้ของตัวเองเป็นกะลาครอบ กันตัวเองออกจากสิ่งที่ไม่รู้ แทนที่จะอยากรู้ว่ามันได้เพราะอะไร หรือไม่ได้เพราะอะไร

ถ้าจำศิลหรือหลับอยู่ในกะลาของอีโก้ตัวเองแค่นั้นมันก็ไม่เดือนดร้อนอะไร แต่อย่าไปเที่ยวพูดถึงสิ่งที่ตัวเองปฏิเสธที่จะรับรู้หรือเรียนรู้ไปทั่วดีกว่าเนาะ

ผมพูดเสมอกราฟไม่เคยทำให้ใครทำนายอนาคตได้ แต่คุณรู้ว่าตอนนี้อะไรกำลังมาก อะไรกำลังน้อยในตลาดได้จาก สถิติ ที่แอพพลายมาเป็นกราฟ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนั้นแหละ

คุณได้ข้อมูลตรงนี้คุณก็เอาไปประกอบการตัดสินใจของตัวเองในการซื้อขายอะไรต่างๆได้ดังนี้

เช่นคุณเห็นอยู่กับตาว่า สามเดือนมานี้ ไม่มีคนซื้อไข่ไก่เลยหรือซื้อน้อยลงมากๆ ราคาเลยตกลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับหลายๆเดือนก่อนนี้ ถ้าคุณเป็นพ่อค้า คุณอาจจะเปลี่ยนแผนพลิกเกมส์ของคุณ ให้ซื้อไข่ไก่มาขายน้อยลง ไปเพิ่มจำนวนไข่เป็ดมากขึ้นในสต๊อค แบบนี้เป็นต้น

และนี้คืออะไรที่เทคนิคคอลให้ มันไม่ได้ให้ไอ้เสี่ยวในกะลาที่ไหนรวยทั้งนั้น ย้ำว่ามันไม่ได้ให้ใครรวยทั้งนั้น

ผมเจอคอมเม็นต์ที่ไม่บ่งบอกถึงความเจริญของกำพืดคนมาแล้วรู้สึกสงสารในสิ่งที่เขาเป็น อันนี้บอกตรงๆว่าโมโห แต่พยายามไม่ด่าควายสวนไปเหมือนที่เขาด่ามา

เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรจะไปเถียงกับคนที่คิดแบบนี้กับชีวิต

ผมก็ได้แต่ขอให้ชีวิตของคุณโชคดีลุล่วงตลอดไปอย่าได้ไปเจอเหตุการณ์สิ่งใดที่จำต้องใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาครับ สาธุ