วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สรุปความจากหนังสารคดีเรื่อง inside job part 3 (จบ)นะครับ

มาต่อกันเรื่อง

ในก่อนหน้านี้ ได้รู้กันแล้วว่าสินค้า อนุพันธ์หนี้ ที่เป็นต้นกำเนิด ของปัญหานี้มีที่มายังไง แล้วอะไรทำให้อนุพันธ์หนี้นี้ เกิดปัญหา สามารถย้อนไปอ่าน
part 1 ได้ที่ :  inside job part 1
part 2 ได้ที่ :  inside job part 2

ใน part นี้น่าจะเป็น part สุดท้าย จะพูดถึง ตัวละครอีกตัวคือ AIG ที่มาทำประกันให้กับอนุพันธ์ หนี้ และจะสรุป พร้อมกับ เสนอแง่มุมปลายเปิดให้ไปลองคิดกันต่อ ว่า การสมคบคิด ของกลุ่มต่างๆ มันมีจริงไหม ครับ

เข้าเรื่องที่ AIG เลย ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1919 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน (ข้อมูลจาก wiki) ไม่ต้องอึ้งไปผมก็เพิ่งรู้ 555

หลังจากนั้นย้ายออกจากจีนหลัง ประธานเหมา เรืองอำนาจ บริษัท AIG ทำธุรกิจทางการเงินหลายรูปแบบ ที่เด่นสุด คือประกันภัย ประกันมันทุกอย่างครับ

ก้าวพลาดสำคัญของ AIG ที่จะพูดถึงคือ การให้ทำประกัน กับ CDO หรืออนุพันธ์หนี้ ที่เราพูดกันมาตั้งแต่คราวก่อน

ก็ไม่รู้พี่แกคิดไง อาจจะเชื่อบริษัท จัดเรตติ้ง มากไปหน่อย เพราะบริษัทพวกนี้ ให้เรตติ้ง อนุุพันธ์หนี้ จากคนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน(subprime) สูงลิ่ว (ตรงนี้ถ้าไม่เห็นภาพให้ไปอ่าน part 2)

ประกันอนุพันธ์หนี้ ที่ AIG เปืดให้บริการนี้ ใครจะซื้อก็ได้ ถึงคุณไม่ได้มี อนุพันธ์หนี้ในมือ คุณก็ซื้อประกัน ได้ จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ

มีบ้านหลังหนึ่งของใครไม่รู้ ตั้งอยู่แถวๆที่เขาชอบไปประท้วงกัน คุณเล็งเห็นแล้วว่า บ้านหลังนี้เสี่ยงโดนคนประท้วงมาเผา

ในกรณีปกติ มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ เพราะคุณจะไปซื้อประกันและเอาประกันให้บ้านใครไม่รู้ คงไม่ใช่เรื่อง

แต่เรื่องนี้คุณสามารถทำได้ เมื่อเห็นว่าบ้านหลังนั้นเสี่ยงโดนเผาแน่ๆ คุณหรือใครที่คิดเหมือนคุณ ก็แห่กันซื้อประกันบ้านหลังนี้ได้เลย เพราะงั้น บ้านหลังนี้จะมีคนถือกรมธรรประกันอยู่จำนวนมาก

ไอ้ตอนที่คนยังไม่ไปเผานี้มันก็แจ่มสิ AIG รับเงินเละจากคนที่ซื้อประกัน ค่าคอมมิสชั่นกระจาย รวยกันถ่วนหน้า แต่พอบ้านหลังนี้โดนไฟไหม้ขึ้นมา อันนี้ละ เรื่องใหญ่ เพราะคุณต้องจ่ายเงินประกัน ให้คนที่ซื้อ ตั้งกี่คนละ ปกติ จ่ายให้เจ้าของบ้านคนเดียวก็แย่แล้ว แต่กรณีนี้คนอีกจำนวนมากที่ซื้อประกันและ AIG ต้องจ่าย

กลับเข้ามาที่ประกันอนุพันธ์หนี้ก็จะเหมือนกับตัวอย่างที่ยกมา ใครๆก็ซื้อได้ เพราะงั้นเมื่อ คนไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ อนุพันธ์หนี้ที่เอามาเก็งกำไรก็ราคาตก AIG เอ๋ยเวลาซวยของคุณก็ได้มาถึงแล้วครับ

หมดส่วนประกันอนุพันธ์หนี้ ไว้เท่านี้ ต่อไปไปดูว่า พวกวานิชธนกิจ พอเจอประกันอนุพันธ์หนี้ และเริ่มเห็นว่า ตัวเองมี อนุพันธ์หนี้ เยอะ และมันกำลังจะแย่ พวกเขาจะทำยังไงกัน ตอนนี้นี้หล่ะ ท่านจะได้เห็นความโหดหน้าเลือดของพวกพ่อค้าโบรกเกอร์พวกนี้

สัญญานอันตรายมันเริ่มที่บริษัทใหญ่ๆของอเมริกัน เริ่มสั่นคลอนครับ พวก GM อะไรเหล่านี้ เขาจ้างงานเยอะในอเมริกา พอธุรกิจไม่ดี คนงานก็ต้องปลดสิครับ ผนวกกับกระแสการย้ายฐานการผลิต ไปจีน คนงานเลยตกงานจำนวนมาก

พอคนตกงานจำนวนมาก พวกลูกหนี้ที่ไม่ค่อยมีวินัย(subprime) ก็เริ่มไม่จ่ายหนี้ พอไม่จ่ายหนี้บ้านที่ซื้อไว้ก็ต้องถูกยึด พอถูกยึดทีนี้บ้านเหลือเพียบ ในตลาดละครับ

พอบ้านเหลือเพียบ พวกคนรวยที่มีบ้านอยู่แล้วแต่ซื้อบ้านอีกเพื่อเก็งกำไรก็ซวยสิครับ พวกนี้ไม่มีปัญหาจ่ายหนี้หรอกแต่เก็งกำไรไว้ พอบ้านราคาตกก็ขาดทุนติดดอยบ้านกันยกใหญ่ ปัญหาใหญ่โตมโหรารได้เกิดเกิดแล้วกับ "หนี้"

แล้วอนุพันธ์หนี้ ที่ใช้วัตถุดิบในการผลิตคือ หนี้ จะเหลือหรือครับ ราคาก็พุ่งหลาวลง และจะลงแบบโอเวอร์ด้วย เพราะมันเป็นกระดาษ ไม่มีพื้นฐานรองรับเหมือนบ้านหรือหุ้น การแห่ขายจนแทบจะให้ฟรีจึงเกิดขึ้นนับแต่นั้น

พวกวานิชธนกิจ goldman sachs เอย merrill lynch เอยพวกนี้แสบ พอเห็นท่าไม่ดี ก็เริ่มทะยอยขาย อนุพันธ์หุ้นออกให้ลูกค้า โดยไม่ได้บอกถึงปัญหาที่กำลังเกิด

เท่านี้ยังไม่พอ พี่แกขายอนุพันธ์หนี้เน่าให้ลูกค้าแล้ว พี่แกยังไปซื้อประกัน จาก AIG อีกด้วย เพื่อเอากำไรอีกดอก

เรียกว่าขายของให้ลูกค้าแล้วยังแทงฝั่งตรงข้ามกับลูกค้าอีก จรรยาบงจรรยาบรรณไม่ต้องพูดถึง

นี้เป็นสิ่งทีเราต้องสังเกตุให้ดี โลกของความโลภ ไม่มีปราณีเห็นใจ ทำเลวแค่ไหนสุดท้ายคนพวกนี้ก็ไม่ได้โดนโทษอะไรมากมาย

กลต. ของอเมริกา ได้ทำการสืบสวนพวกนี้แต่จะไปหวังให้ลงโทษทั่วถึงนี่เป็นไปได้ยาก สุดท้ายแล้วต้องเอาเงินภาษีไปอุดหนุนให้พวก วานิชธนกิจ ธนาคาร ประกันอีก ด้วยซ้ำ

พวกนี้ก็ยังไม่สำนึก ได้เงินอุดหนุนมาเอาไปแจกโบนัสกันอีกเพียบ ทั้งที่ปัญหาเกิดมาจากตัวเองแท้ๆ น่าสงสารคนอเมริกันไหมละครับ

สรุป เรื่องนี้ เมื่อผู้บริหารใหญ่ของวอลสตรีท ได้โอกาสไปทำงานในตำแหน่งใหญ่ๆ ในรัฐสภา และ fed การผ่อนคลายกฏต่างๆตามที่พวก วอลสตรีทต้องการเลยทำได้ง่ายๆ

เมื่อคุณสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาขายได้ง่ายๆแบบแทบไม่ได้ลงทุนอะไร ก็ฟันกำไรฟรีๆ แถมคนคุมยังเป็นพวกเดียวกันอีก กฏระเบียบอะไรไม่ต้องยึดกัน ความโลภเป็นที่ตั้ง ปั่นของเก๊ ออกมาขายเอากำไรกันใหญ่

สุดท้ายเมื่อความจริงปรากฏ คนรับกรรมคือ บรรดาชาวบ้านตาดำๆที่จ่ายเงินเข้ากองทุน กองทุนเอาไปลงทุนต่อในของเก๊พวกนี้

ชาวบ้านอเมริกัน ที่ต้องตกงาน ไร้บ้าน ออกไปนอนเต๊น เงินบำนาญที่ออมมาในกองทุน ก็ไปเสียทิ้งเฉยๆในเกมส์ครั้งนี้ คนอเมริกันโดนปล้นเงิน ส่วนคนปล้น โดนแกล้งจับไก่มาเชือดให้คนดู ตัวสองตัว ส่วนที่เหลือเสวยสุขบนความทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติสบายใจเฉิบ

คนไทยเราไม่ใช่ชาติเดียวที่เพื่อนร่วมชาติเอาเปรียบครับ ของประเทศอื่นๆก็มีและมันซับซ้อนกว่าจนน่าเหลือเชื่อเหลือเกิน

***บริษัทจัดเรตติ้งร่วมมือกับ วานิชธนกิจ การันตีสินค้าเน่าอย่างอนุพันธ์หนี้ของคนที่ไม่มีวินัยในการใช้หนี้ หรือไม่อันนี้ไปจับความแล้วคิดเอาเอง

***คนใหญ่คนโตของรัฐ รู้เห็นเป็นใจกับ พวกวานิชธนกิจเลยปล่อยให้เขาทำอะไรก็ได้จริงหรือเปล่า อันนี้ก็ไปคิดต่อกันเอง

***บริษัทประกันอย่าง AIG หลงระเริงไปกับกำไร จนลืมคิดและบริหารความเสี่ยงอย่างที่ควรจะเป็น จนทำบริษัทพบกับวิกฤติหนัก เป็นตัวอย่างให้นักลงทุนทุกคนต้องคิดเอาเป็นเยี่ยง

อย่าหลงจนไม่ลืมหูลืมตาเห็นอะไรก็ง่ายไปหมด "อย่าง" AIG

สุดท้าย ถ้าคุณคิดว่าประเทศที่มีการบังคับใช้กฏหมายดีๆแบบอเมริกา ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดได้ ในเมืองไทยที่ใครอยากจะทำอะไรก็ทำถ้ามีเส้นมีอำนาจ จะทำสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นได้ด้วยไหม ไปลองคิดดู

ส่วนอันนี้คิดให้มากกกกกกกกกครับ บ้านเราเกิดมาหลายรอบ แต่คนไทยเราโยนความผิดให้คนอื่น ถ้ามีเวลาว่างๆเดี๋ยวจะมีเขียนมาเขี่ยประเด็นต้มยำกุ้ง ที่ซึ่งผมคิดว่าคนไทยเรา "ด่าผิดคน"

ผู้ร้ายไม่ใช่ "จอร์จ โซรอส"
ไอ้ผู้ร้ายตัวจริงคือ ......
ไว้มีโอกาสจะมาเขียนถึงอย่าลืมติดตามกันครับ หุหุ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น