เวลาเราใช้ patterns จับทิศทางราคา ถ้าใช้โดดๆโอกาสทายถูกแทบจะถือว่าต้องใช้โชคดีอย่างเดียว ถ้าจะให้ใชัได้ดี ควรใช้ร่วมกับสิ่งอื่น
2 ใช้ร่วมกับสัญญานทางเทคนิคอื่นๆเช่น MacD เมื่อสงสัยว่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของ เวฟ กราฟได้สร้าง patterns และสัญญานทางเทคนิคนี้คอนเฟิร์มการเบรก Divergence กลับตัว Convergence เบรกลงต่อ เราจะจับทิศได้มากกว่า
3 เมื่อ patterns breakout แล้ว ตัวโวลุ่มจะคอนเฟิร์มอีกทีว่าเบรกจริงหรือเบรกหลอก
chart patterns มันไม่ได้ไรเหตุผล มันเป็นการดูอารมณ์และอุปสงค์กับอุปทาน ของตลาดจริง ดังนั้นมันต่างกับการจดจำชื่อหรือรูปแบบของ patterns นะครับ จำได้ก็ดี แต่ผมว่าวิเคราะห์ให้ออกว่ามันทำไมถึงเป็นแบบนั้นจะดีกว่า
chart patterns จะมีอยู่หลักๆ 3 แบบ
1 ไปชนแนวต้าน/รับแล้วเทสแนวต้าน/รับนั้น แล้วถึงกลับตัว มักเกิดเมื่อจบเวฟ
2 ไปชนแนวต้าน/รับแล้วเทสแนวต้าน/รับนั้น แล้วถึงไปต่อ มักเกิดเมื่อจะเบรกแนวต้านเก่าเพื่อไปสู่เวฟถัดไป
3 patterns ที่แสดงถึงความยังไม่แน่ใจ ราคาบีบบเข้าสุดท้ายเบรกไปทางไหนทางหนึ่ง เกิดเมื่อใกล้จบเวฟพักตัว
ทั้ง 3 ข้อเป็นได้ทั้งขาขึ้นขาลง
ดังนั้นเมื่อเพื่อนๆถามผมว่า ราคาตอนนี้เป็น patterns นั้นหรือนี่หรือเปล่า ผมตอบรวบเลยไม่รู้จริงๆครับ แต่ถ้าถามว่าคนในตลาดคิดยังไงกับราคาที่ออกมาในกราฟทรงนี้ แบบนี้ถึงพอจะกล้อมแกล้มบอกได้ว่าคนคิดกันแบบไหน
ขนาด patterns ยังไม่รู้เรื่อง การอ่านแท่งเที่ยนนี่ยิ่งไม่รู้เลย(สำหรับผมนะ ผมว่ามันสั้นมาก มากเกินที่โชคดีของผมจะทำงานกับมันได้ผลน่ะ)
หลักสำคัญ เลยใช้สิ่งที่บอกข้างบนมาดูว่าตอนนี้ราคามันอยู่ช่วงไหนของรอบ ช่วงที่เกิด patterns คือช่วงที่กำลังวัดใจ ราคาจะเบรกไปทาง ที่สัญญานกับ คลื่นที่เหลือบอก (ทั้งนี้ถ้าไม่มีข่าวรุนแรงมากระทบนะครับ)
กำลังซุ่มเขียน ebook ที่จะรวมทั้ง สามหัวข้อหลักคือ chart patterns , elliott wave ,แล้วก็การจับสัญญาน มาไว้อยู่ คงอีกพักใหญ่เพราะทำเรื่อยช้าจัง 555
picture from www.investopedia.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น