วันนี้เย็นๆได้ดูรายการข่าวของค ุณสรยุทธ์ เรื่องนโยบายการรับตรงของมหาลัย ของคุณ จาตุรนต์ ฉายแสง แอบเห็นด้วยในหลายๆเรื่อง เรื่องสำคัญคือเรื่อง วางเป้าอย่างหนึ่งพอไปทำจริง ดันพยายามทำเพื่อเป้าอีกอย่าง
เมืองไทยเราเป็นอย่างงั้นกันทั่ วถึงจริง ส่วนที่ คุณ จาตุรนต์ ฉายแสง พูดถึง จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ หลักสูตรการเรียน --> การรับตรง -->โรงเรียนติว --> เป้าหมายที่นักเรียนพยายามเรียน
คือสรุปง่ายๆ
-นักเรียนส่วนมากพยายามเรียนเพราะจะได้สอบ ได้
-พ่อแม่ส่วนมาก พยายามให้ลูกเรียนติวเยอะๆเพราะ จะให้สอบได้
-โรงเรียนติวพยายามติวเด็กเพื่อ ให้ทำข้อสอบได้
ไม่มีแมวสักตัวพยายามเรียนเพื่อ ที่จะได้รู้ จะได้อยากทำ อยากเป็น เช่นน้อยคนพยายามเรียนฟิสิกส์ เพื่อจะได้เป็นนักฟิสิกส์ ซึ่งเป้าหมายของการเรียนมันคงไม ่ใช่เพื่อสอบใด้
มองไปถึงเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน
- ใส่หมวกกันน๊อคเพราะกลัวตำรวจจั บ หรือกลัวสมองไหล
- เมื่อประเมินผลงานในหน่วยงานต่า งๆ สิ่งที่ได้คือ การพยายามทำให้เจอเรื่องผิดน้อย ที่สุดหรือว่า พยายามหาข้อผิดพลาด เพื่อไปปรับปรุงต่อ
- ตำรวจเฝ้าร้านทองเพราะกลัวมีอาช ญากรรม หรือว่าต้องการ...
- ทำงบการเงิน เพื่อต้องการให้ได้ข้อมูลที่ถูก ต้องต่อการประเมินตัดสินใจ หรือทำให้มันดูดีที่สุด ผู้ถือหุ้นจะได้สบายใจที่สุด
แล้วก็อีกร้อยแปดพันเก้า เวลาเขาว่าเด็กบ้านเรา เรียนจบมาทำงานไม่ได้ ก็อย่าไปโทษเด็ก ที่จริงเราก็เป็นกันทั้งประเทศแ หละ เป็นกันตั้งแต่รากหญ้า ยันซุปเปอร์ไฮโซ
ในส่วนของเด็กเป็นห่วงก็แต่ เด็กๆหัวกะทิที่สอบใด้เข้าไป มักไปโดนแนวคิดนี้แหละ ดองความสามารถไว้หมด เพราะจำนวนมากไม่รู้ว่า "เป้าหมาย" กับ "เป้ามั่ว" มันต่างกันยังไง เมื่อวันหนึ่งเรียนจบแล้ว ก็ไม่รู้จะศึกษาต่อไปเพื่ออะไร เพราะมันดันไม่มีสอบไม่มีให้คำแ นน
จึงไม่ต้องสงสัย ทำไมพักหลังๆเราจะเห็นว่า คนเรียนเก่งๆ ไปเป็นลูกจ้างเป็นคนทำงานแรงงาน (อะไรที่ทำงานแลกเงินของนายจ้าง ผมขอถือว่าคืองานแรงงานหมด)
ส่วนพวกเรียนกะโหลกกะลา ผ่านได้ ก็เลือดตามแทบกระเด็น เรียนจบบ้างไม่จบบ้าง สอบไม่ติดไม่ได้เรียนต่อบ้าง พวกนี้ จำนวนมากวันหนึ่งดันกลายเป็นเจ้ าของธุรกิจใหญ่เล็ก ให้คนเรียนเก่งได้อิจฉาเล่น
มันก็เพราะว่าเด็กพวกหลังนี้ไม่ ได้โดน ระบบแปลกประหลาดนี้ข่มขืนนั้นแห ละ พวกนี้รู้ว่า "ศึกษาเพืออะไร"
เมืองไทยเราเป็นอย่างงั้นกันทั่
คือสรุปง่ายๆ
-นักเรียนส่วนมากพยายามเรียนเพราะจะได้สอบ
-พ่อแม่ส่วนมาก พยายามให้ลูกเรียนติวเยอะๆเพราะ
-โรงเรียนติวพยายามติวเด็กเพื่อ
ไม่มีแมวสักตัวพยายามเรียนเพื่อ
มองไปถึงเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน
- ใส่หมวกกันน๊อคเพราะกลัวตำรวจจั
- เมื่อประเมินผลงานในหน่วยงานต่า
- ตำรวจเฝ้าร้านทองเพราะกลัวมีอาช
- ทำงบการเงิน เพื่อต้องการให้ได้ข้อมูลที่ถูก
แล้วก็อีกร้อยแปดพันเก้า เวลาเขาว่าเด็กบ้านเรา เรียนจบมาทำงานไม่ได้ ก็อย่าไปโทษเด็ก ที่จริงเราก็เป็นกันทั้งประเทศแ
ในส่วนของเด็กเป็นห่วงก็แต่ เด็กๆหัวกะทิที่สอบใด้เข้าไป มักไปโดนแนวคิดนี้แหละ ดองความสามารถไว้หมด เพราะจำนวนมากไม่รู้ว่า "เป้าหมาย" กับ "เป้ามั่ว" มันต่างกันยังไง เมื่อวันหนึ่งเรียนจบแล้ว ก็ไม่รู้จะศึกษาต่อไปเพื่ออะไร เพราะมันดันไม่มีสอบไม่มีให้คำแ
จึงไม่ต้องสงสัย ทำไมพักหลังๆเราจะเห็นว่า คนเรียนเก่งๆ ไปเป็นลูกจ้างเป็นคนทำงานแรงงาน
ส่วนพวกเรียนกะโหลกกะลา ผ่านได้ ก็เลือดตามแทบกระเด็น เรียนจบบ้างไม่จบบ้าง สอบไม่ติดไม่ได้เรียนต่อบ้าง พวกนี้ จำนวนมากวันหนึ่งดันกลายเป็นเจ้
มันก็เพราะว่าเด็กพวกหลังนี้ไม่