วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มาดูกราฟราคาหุ้น เทียบกับ วิกฤติต่างๆทางการเมืองที่ผ่านมา ว่ามันน่ากลัวจริงเหรอครับ

อันนี้คือภาพรวมของวิกฤตจริง และ วิกฤตคิดไปเอง เราลองสังเกตุกันดูว่า อะไรที่จะพาความชิบหายจริงเข้ามา ใช่ม๊อบใช่การเมืองหรือเปล่า

ถ้าปล่อยอารมณ์พาไปเราจะไม่เห็นภาพ ไม่รู้ตัว เราเสพข่าว เสพความกลัวตลอด แล้วคิดเอาเองจับนั้นผสมนี้ ตามข่าวให้มา แล้วสรุปเอาเลยห้วนๆว่า วิกฤติแล้วโว้ย

เงินจะออกจริง ต้องเพราะฝรั่งเอากลับ ไม่ว่ากำไรแล้ว(ซึ่งเมื่อกำไรอยู่ก็ไม่รู้จะเอากลับไปทำไมอันนี้ไม่ค่อยมี) หรือที่บ้านเขากำลังมีปัญหาต้องดึงเงินกลับ(อันนี้แหละชัด คนมันจำเป็นต้องใช้ มันถึงได้ดึงกลับ) มันขึ้นอยู่กับนโยบายหลักข้างนอก ไม่ได้ขึ้นกับนโยบายการเมืองไทยเป็นหลัก

ยกเว้นช่วง วงกลมสีน้ำเงินนั้น มันเปลี่ยนนโยบายการเงิน ถ้าไม่ชักขากลับจริง ก็ไม่รู้สภาพจะเป็นยังไงเหมือนกัน หุหุ

ส่วนการเมืองนี้ดูภาพกว้างแล้วจะเห็นว่ากะโหลกกะลามาก เผาสนามบิน เผาเมือง ยังไม่เจ๊งเท่าแฮมเบอร์เกอร์ก้อนเดียวเลยครับ

เห็นเช่นนี้แล้ว สิ่งที่ย้ำตลอดอย่าไปเอาข่าวมาคิดเลย วันนี้ต่างชาติเชื่อมั่นการเมือง พรุ่งนี้ต่างชาติกังวลม๊อบ ว่ากันไปเรื่อยเปื่อย

ไปว่าไปจับตากันที่ไอ้ตัวละครหลักเลยว่ามันจะเปลี่ยนอะไรไหม

ตอนนี้บอกตรงๆ ถ้าค่าเงินสุดกราฟแล้วไม่ย่อกลับมา สถาบันช่วยซื้อช่วยดันยังไง ก็อย่าไปห้าวเข้าเอาคอไปพาดเขียง แต่พอกราฟมันบอกอีกอย่าง สมมุติฐานตรงกันข้ามนั้นได้รับการพิสูจน์แล้ว ก็อย่าไปมัวแต่กลัวกับข่าวที่มันไม่ได้ส่งผลจริงๆกับตลาดครับ

สุดท้าย เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้สนใจ หรือเพิ่งเริ่มสนใจ เทคนิคคอลเข้ามาดูแล้วเข้าใจตรงกัน ต้องเน้นอีกทีว่า ราคาไม่ได้ทำนายอนาคต เน้นและพูดให้เห็นภาพบ่อยๆ แล้วว่ากราฟมันแสดงความอยากของตลาด เราใช้กราฟแบบว่าอารมณ์เดียวกับข้อมูล วิจัยตลาด ก่อนเอาไปทำสินค้ามาขาย ก่อนออกโปรโมชั่นให้บริการต่างๆ นั้นแหละ คิดหรือฟังกันมาว่ามันคืออะไรที่พิศดารอยู่ ก็จงไปศึกษาหาความรู้ ว่ามันคืออะไรเรามองหาอะไรจากมันครับ


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น