วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

ผลกระทบต่อพวกเราทุกคน จากการเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรของไทยในอนาคคต ตอน 2

ผลกระทบต่อพวกเราทุกคน จากการเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรของไทยในอนาคคต ตอน 2

จากตอนแรกผมพูดถึง การเข้ามาของกลุ่มทุนเกษตร และการทำทุกอย่างแบบครบวงจร จนแทบไม่เหลือช่องว่างให้ เกษตรกรรายย่อยเลย ซึ่งอ่านเล่นๆก่อนได้ที่นี้ http://thaitraderblog.blogspot.com/2014/03/1.html

ตอนนี้ขอว่าต่อโดยทำนาย(เดา) จากสิ่งที่เป็นในตอนนี้ ว่าอนาคตเกษตรกรไทยจะเป็นอย่างไ

1 จากการที่กลุ่มทุนเกษตรทุ่มทำทุกอย่างเองครบวงจร ตั้งแต่เพาะพันธุ์ ยันแปรรูปขั้นสุดท้าย รวมถึงขายปลีกขายส่งเองหมด อันนี้จะทำให้เกษตรกรรายย่อยหาที่แทรกไม่ได้เลย คำว่าไม่ได้เลยนี้คือไม่ได้จริงๆ คือปลูกผักมาก็ต้นทุนสูงแล้ว จะเอาไปขายในตลาดสดก็สู้ห้างขายผักไม่ไหว วันหน้ามันจะมีไปทุกมุมถนน เยอะยิ่งกว่าตลาดสดเทศบาลแน่ๆ ข้อนี้เดี๋ยวมันจะโยงมาถึงพวกเราที่ไม่ใช่เกษตรกรครับ

2 จากเหตุผลข้อแรก เกษตรกรไทยจะแทบไม่มีวันพัฒนาการผลิตไปมากกว่านี้ได้เลย คือผลิตมาก็ขายสู้เขาไม่ได้ ยิ่งทำมันยิ่งหมดไปกับต้นทุนที่สูงขึ้น คนจะไปพัฒนาอะไรได้ยังไง ต่างคนต่างทำ มันไม่เหมือนกลุ่มทุนเกษตร ที่เขาทำกันทีใหญ่ๆ ลงทุนพัฒนาอะไรไปมันก็คุ้ม มันก็ยิ่งได้ต้นทุนที่ถูก ดังนั้นเกษตรกรไทย จะถอยหลังไปเรื่อยๆ ผลผลิตที่ได้ก็ถอยหลัง

3 จากสองข้อแรก คนเกษตรกรกลุ่มหนึ่งก็คงต้องแก้ปัญหาด้วยการไปเป็นลูกจ้างกลุ่มทุนเกษตร ส่วนอีกกลุ่มก็จะยังดันทุรังทำต่อ(กลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพวกเราอีกแล้ว)กลุ่มสุดท้าย เลิกทำไปหางานอย่างอื่นทำดีกว่า

4 จากเกษตรกรที่ยังดันทุรังทำต่อไปในข้อสาม และผนวกกับเหตุผลจากข้อแรก คือดันทุรังทำขาดทุนๆไป ขายสู้กลุ่มทุนเกษตรก็ไม่ได้ เกษตรกรไทยที่เหลือยังทำเกษตรอยู่จริงๆกลุ่มนี้จะกลายเป็นอะไรประเภท เอาหอมเน่ามาเทปิดถนน เอาหมูเอาเป็ดมาฆ่าหน้าสภา เอาไข่มาปากำแพงบ้านนายก เพื่อเรียกร้องเงินช่วยเหลือเฉพาะหน้า

ไม่กี่ครั้งแรกมันก็ยังเป็นเงินเฉพาะหน้าอยู่ ไอ้หลายๆครั้งเข้า มันคืออะไรในแบบที่เรียกว่าทำเป็นประเพณี คือนอกจากเพาะปลูกเก็บเกี่ยว ส่งขายเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ยังต้องทำอีกอันสุดท้ายให้จบตามประเพณีคือ ต้องไปประท้วงเอาเงินช่วยเหลือ (โดยที่เงินช่วยเหลือนี้ไม่ได้ทำให้เรียนรู้และแก้ไขปัญหา)

ทีนี้ก็ได้เกิดช่องสวยๆสำหรับพรรคการเมืองหัวใส ที่เห็นช่องว่างตรงนี้ เป็นโอกาสให้ได้ใช้หาเสียงสนับสนุน

(ตรงส่วนข้างล่างนี้ไม่ได้มีเจตนาว่าพรรคการเมืองไหนแบบเจาะจงจริงๆนะครับ คือในความคิดเห็นส่วนตัวผมคิดว่าในอนาคต ไม่ว่าพรรคไหน มันจะคิดกันแบบนี้ทั้งนั้น)

สิ่งที่พรรคการเมืองจะทำก็คือ สัญญาว่าจะให้ในสิ่งที่เกษตรกรอยากได้(ซึ่งปกติก็ประท้วงเอาแต่คราวนี้ไม่ต้อง) โดยที่สิ่งที่พรรคการเมืองให้ต้องไม่ไปแก้ปัญหาตรงนี้ให้หมดไป(เน้นว่าต้องไม่ใช่การแก้ปัญหา ต้องไม่ทำแบบยั่งยืน คือจ่ายแล้วจบ พอเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็เอาไปต่อรองแลกเสียงคะแนนอีกที) เพราะถ้าปัญหาตรงนี้หมดไปนักการเมืองจะเอามุขไหนมาแลกเสียงอีกล่ะ

การทำแบบนี้มันจะเข้าวงจรอุบาท ที่ผมบอกว่ามันเกี่ยวกับเราทุกคนคือ แทนที่เงินภาษีจากทุกๆคนในประเทศ ที่เก็บไปจะเอาไปใช้ทำอะไรได้อีกเยอะแยะ หรือว่าเอาไปแก้ปัญหาเกษตรแบบตรงประเด็นเลยได้

แต่ว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะทำ เขาจะเอาเงินภาษีของทุกๆคนในประเทศไปเลี้ยงไข้เกษตรกร เพื่อที่จะเอาไว้ต่อรองคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง

เรื่องทั้งหมดนี้จึงสรุปมาได้ประมานนี้

กลุ่มทุนเกษตร --> กดเกษตรกรให้แย่ --> นักการเมืองเลี้ยงไข้เอาคะแนนเสียง --> พอได้คะแนนเสียงก็เอาไปแลกกับเงินสนับสนุน --> กลุ่มทุนเกษตร

วงจรอุบาทนี้เบียดเบียนเอาภาษีจากพวกเราทุกคนไปใช้เพื่อให้มันยังหมุนยังวิ่งอยู่ได้

วิธีการแก้ปัญหามันคงต้องใช้ความเข้าใจและจริงใจอย่างเดียว

ประเทศมันดูมืดมนนะครับ ในสถานการณ์ตอนนี้ ต้องทำความเข้าใจกัน

เกษตรกรไม่ใช่คนอื่น เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้มันแย่ และเราทุกคนควรเข้าใจและร่วมมือกันครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น