Paradox คืออะไร เปรียบง่ายๆก็คืออะไรแบบปัญหาไก่กับไข่อันไหนเกิดก่อนกันนั้นแหละ
การรับมือกับปัญหา Paradox คุณต้องไม่ไปตามหาหรือคิดตัดสินว่ามันจะมีอะไรถูกเพียงอย่างเดียว หรือผิดเพียงอย่างเดียว ต้องฟังเหตุ และ ผลที่แย้งความเชื่อของตัวเองด้วย
นี้เป็นที่มาที่ผมย้ำเสมอว่า ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ให้ตั้งสมมุติฐาน การตั้งสมมุติฐานคือการยอมรับว่า มีข้อที่ถูกและข้อที่ผิดพร้อมๆกัน แล้วตัวเราก็ปรับกระบวนการของเราไปตามมัน
การยอมรับว่ามันไม่มีทางที่ถูกแน่นอนเพียงทางเดียวนี่แหละคือการแก้ปัญหา Paradox เพราะถ้าคุณมองหาทางที่ถูกต้องทางเดียว ปัญหา Paradox นี้จะได้ชื่อใหม่ว่า ปัญหาโลกแตก คือเถียงกันจนโลกแตกก็ไม่ได้ข้อสรุป
ในการเมืองของไทยเราก็เหมือนกัน มัน Paradox สิ่งที่ถูกของอีกฝั่ง มันมักถูกแย้งแบบเถียงไม่ออกจากอีกฝั่งเช่นกัน นี่แหละมันคือ Paradox ของจริง
แต่คนไทยเราไม่เคยคิดถึงว่าเราต้องยอมรับในสมุติฐานที่อาจจะเป็นผลลัพธ์ของทั้งสองฝั่ง(ซึ่งมันขัดแย้งกัน) ปัญหา Paradox ทางการเมืองนี้เลยกลายเป็น ปัญหาการเมืองโลกแตก(สำหรับคนไทย) คือเถีียงกันจนโลกแตกก็แก้ไม่ได้
เพราะดันไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ถูกของตัวเองก็มีอีกเหตุผลที่แย้งได้ว่าไม่ใช่
ส่วนอีกฝ่ายก็ตั้งท่ายืนกระต่ายขาเดียวว่าสิ่งที่ใช่ตามที่ตัวเองคิดมันจะต้องถูกในทุกๆโลก
ถ้าอยากแก้ปัญหา Paradox ทางการเมืองนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปิดใจรับฟัง ข้อแย้งของอีกฝ่ายด้วยกันทั้งคู่ ยอมรับสิว่ามันมีเหตุผลอะไรที่ทำให้คิดแบบนั้นแล้วถูกหรือผิด
ประเทศไทยเราอ่อนเรื่องการตีความในขั้นที่วิกฤติจริงๆนะครับผมไม่ได้พูดเล่น มองเห็นแล้ว ช่วยกันคิดช่วยกันตกผลึกเถอะครับ วันข้างหน้า พวกเราจะได้พอมีอะไรให้ลูกหลานได้เคารพนับถือบ้าง
ประชาธิปไตย มันสร้างมาเพื่อแก้ปัญหา Paradox นี่แหละ เพราะสังคมเรามันหลากหลาย มันมีคนเยอะ มันเลยต้องมีระบบ ปัญหาParadox ถ้าจะแก้ด้วยสันติต้องแก้แบบประชาธิปไต คือการยอมรับฟังเสียงของคนอื่น แล้วค่อยๆปรับตัวไปตามปัญหานั้นๆ
สังคม มันต้องมี Paradox ถ้าไม่มีมันจะไม่เจริญ จะไม่มีนวัตกรรม ฝากไว้ให้คิด Paradox มันอยู่รอบๆตัวเรา มันเป็นสิ่งที่เราต้องรู้วิธีรับมือกับมันครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น