วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

วัฒนธรรมประหลาดของเราคนไทย อยากกินมะพร้าวดันไปขึ้นต้นมะขาม

อยากกินมะพร้าวดันไปขึ้นต้นมะขาม 
มีหุ้นตัวหนึ่งบัตรเครดิตอะไรประมานนั้น ตอนงบออกเมื่อปีหรือสองปีก่อนผมจำไม่ค่อยได้ งบออกขาดทุนแต่หุ้นขึ้นพรวดๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งบขาดทุนเพราะ กันเงินไว้ไปทำอะไรสักอย่าง อะไรประมานนั้น บอกตรงๆผมไม่ค่อยเข้าใจหรอก(เพราะไม่เคยได้คลุกคลีอยู่ในธุรกิจนี้ เขากันเงินไปทำอะไรแล้วมันดีกับธุรกิจยังไง ผมมองไม่ออก) 

จึงได้บอกไปว่า ผมเชื่อว่าหุ้นขึ้นเพราะคนอยากซื้อแค่นั้นแหละ บริษัทจะเจ็งหรือจะรุ่งในอนาคตไม่มีใครรู้ แม้แต่ ผู้บริหารก็บอกชัวร์ๆไม่ได้หรอก

ถึงบริษัทจะเจ๊งถ้ามีอะไรสักอย่างมากระตุ้นให้คนอยากซื้อหุ้นแบบนี้มันก็ขึ้น แล้วถึงบริษัทมันจะรุ่งแต่ถ้ามีคนทำให้มีกระแสในตลาดแย่ๆ สักอย่าง คนก็อยากขาย หุ้นมันก็ลง มันมีแค่นั้นแหละ

ถ้าเราไม่ปลอบใจตัวเองมากไป เหตุผลที่หามาอธิบายว่าหุ้นขึ้นเพราะนั้นนี่ทั้งที่งบขาดทุน ผมคิดว่าหลอกตัวเอง

พูดจบปุ๊บรู้เลยว่าเขาต้องคิดว่าเรา กวนทีน

(ความคิดเห็นส่วนตัว)การวิ่งของราคามันเก็งกำไรทั้งนั้น ใช่อยู่วันหนึ่งถ้าธุรกิจดีๆ ฐานของราคาหุ้นแบบกว้างๆ ต้องเลื่อนไปตามผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นๆ แต่เวลาปกติหุ้นพุ่งๆขึ้นไปนั้น เขารอหรือพยายามทำให้คนหาเหตุมาอธิบายผลนี่แหละ แล้วจึงพาไปอยู่ดอยกัน ยิ่งไปดูกราฟจะยิ่งเห็นชัด มันมีจังหว่ะทางเทคนิคให้เห็นเยอะเลย

ถึงผมไม่รู้ว่าธุรกิจบัตรเครดิตเขาทำกันยังไง นอกจากจะโทรมาถามขายให้ลูกค้าวันเว้นวันแล้ว ผมคิดเอาเองว่าพวกนี้ต้องมีนักเทรดเก่งๆคุม พวกบริษัทการเงิน นี้มันตัวกลั่นทั้งนั้น เขี้ยวลากดิน

มาถึงตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเหตุผลที่ว่าบริษัทเขากันเงินไปทำอะไรสักอย่างที่ว่านั้น ไปทำอะไรอีท่าไหน ราคามันถึงลงมา เกือบครึ่ง เงินที่กันไปนั้นไม่ทำให้ธุรกิจดีแล้วหรือไง

ตอนนี้ราคาลงมาใกล้จุดน่าจับตาทางเทคนิคเรื่อยๆ แต่เชื่อผมเถอะ คนที่คิดว่าตอนนั้นมันขึ้นเพราะเขากันเงินไปทำอะไรสักอย่างไม่รู้ ผมคิดว่าตอนนี้เขาไม่กล้าจับตาหุ้นตัวนั้นอีก

เขาจะจับอีกทีตอนที่หุ้นวิ่งแล้วมีคนพยายามทำให้คนในตลาดหาเหตุมาประกอบผลอีกนั้นแหละ คราวนี้จะเป็นเหตุผลไหนแปลกเท่าเดิมหรือไม่ก็ว่ากันไปอีกเหมือนเดิม

แน่นอนถ้าดูผลประกอบการ เพื่อจับตาการทำผลตอบแทนของธุรกิจมันก็อีก เรื่องราคาไปตามพื้นฐานอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ซีเรียสในรายละเอียดการขึ้นรอบสั้นกลาง มันก็ไม่มีปัญหา

ถ้าอัตรากำไรหรือการเจริญเติบโตไม่เปลี่ยนก็ไม่จำเป็นต้องเครียด แต่ถ้าจับตาดูราคาอยู่ถ้าเราคาเปลี่ยนแล้วเครียด มันไม่ค่อยมีเหตุผลที่จะปฏิเสธเครื่องมือช่วยจับตา

อันนี้คือสิ่งที่ผมคิดเอาเองว่าการหวังอย่างหนึ่งแล้วไปทำอีกอย่างมันค่อยไม่เมกเซนซ์นะ

อยากกินมะพร้าวไปขึ้นต้นมะขาม อยากกินไก่ดันไปฆ่าเป็ด อยากเก็งกำไรไปเอาข่าวมาตัดสินใจ อะไรแบบนั้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น