วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

เวลาเราไปดูการทำนายอนาคตราคาหุ้น ขอให้เราพึงรู้ไว้ 2 ข้อนะครับ

เวลาเราไปดูการทำนายอนาคตราคาหุ้น(ผมใช้คำนี้แหละสำหรับคนที่ฟันธงอนาคต) แล้วเขาบอกว่าหุ้นจะไปถึง เท่านั้นเท่านี้ สองพันสามพันจุด หรือ ลบไปห้าร้อยหกร้อย อะไรแบบนั้น ขอให้เราพึงรู้ไว้ 2 ข้อนะครับ

1. มันคือการคาดการณ์ระยะยาวจากความรู้ด้านต่างๆ ซึ่งอย่างที่บอกว่ามันคือการคาดการณ์ "เป้าหมาย" มันยังไม่ใช่ความจริง เพราะฉะนั้น มันอาจจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ได้ ต้องแยกความหมายของคำว่า เป้าหมาย กับความจริง ให้ออก เราจัดการหรือเรากระทำกับ เป้าหมาย และ ความจริง แตกต่างกันครับ

2. ถ้ามันเกิดขึ้นจริงตามตำรา ในระหว่างทางที่จะไปถึง สองสามพันจุดแบบที่เขาว่า มันต้องมีย่อมีปรับฐาน มีทดสอบความมั่นใจอีกเพียบ ไอ้ตรงนี้แหละ ถ้าไปหลงกับเป้าหมายแล้วไม่ดูปัจจุบันเป็นตัวหลักของระบบ บางทีเราเอาจจะอยู่ไม่ถึงวันที่ สองสามพันจุดนั้นเกิดขึ้นก็ได้

จากทั้งสองข้อที่ต้องการจะบอกคือ เราต้อง ! อยู่กับข้อมูลปัจจุบันเป็นหลัก การคาดหวังกับราคาอนาคต(แบบมีหลักการ) คือเป้าหมาย นั้นถูกต้องแล้ว แต่อย่าให้มันควบคุมระบบ ความบรรลัยของระบบเทรด เกิดเมื่อ จิตของคนดันไม่เชื่อ สัญญานปัจจุบันของระบบนี้แหละ

ตั้งระบบเทรดหลักเดือน พอสัญญานเตือนว่าออกได้แล้ว จิตดันไปดึงเอา "สัญญา" จากเซียนว่ามันจะไปถึงเท่านั้นเท่านี้ สุดท้ายแสดงออกมาเป็น สังขาร ด้วยการดื้อระบบ ผลกรรม ที่ตามมาคือ นอนก่ายหน้าผาก คำพูดว่า "รู้งี้" ก็เกิดตามมา

คนที่ศึกษาการใช้เทคนิคคอลหลายๆคนก่อนหุ้นลง หรือ ขึ้น ไม่ใช่ไม่เห็นนะ เจอสัญญานก็รู้ก็จับตาเตรียม แต่ตกม้าตายเพราะไม่ยอมเชื่อระบบ ไปเชื่อ เสียงกระซิบจากเซียนแทน

การไม่เข้าใจว่า เป้าหมาย กับ ความจริง มันมีอะไรต่างกันคือสิ่งที่ทำให้คนเรา ที่ได้รับข้อมูลเดียวกัน แต่ทำผลงานได้ต่างกันครับ

คนที่เอาเป้าหมายไปปนกับความจริงจนแยกไม่ออกก็เตรียมปวดหัวได้

สิ่งหนึ่งที่ผมหนักแน่นและบอกตลอด คือ สร้างระบบ และให้ระบทำงานของมันไป อย่าไปแทรกแซงด้วยอารมณ์ หรือจิต ของเรา

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าราคาหุ้นจะไปที่ไหน ประเด็นอยู่ที่ว่า เมื่อหุ้นขึ้นคุณอยู่สภาพไหน แล้ว ตอนมันลงละคุณอยู๋สภาพไหน "ระบบทำให้เราอยู่ถูกที่"


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น