วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

โลกที่เห็นและน่าจะเป็นไป 2558 (ผมไล่อัพเดตบล๊อกจากบทความและบ่นๆในเฟสบุ๊คครึ่งปี มาถึงตรงนี้วันที่ 4-1-2558 ตีสองครึ่ง)

ยังไม่ได้มาเขียนอะไรลงต้อนรับปีใหม่ถึงเพื่อนๆในเพจเลยครับ แต่มีแน่ก่อนตลาดเปิด(หมายถึงบทความที่เป็นการเป็นงานหน่อย)

ปีหน้านี้คงเป็นปีที่มันส์ ในส่วนของตลาดหุ้นบ้านเราถ้าจับพลัดจับผลูทำนิวไฮได้ก็ ไม่ได้มีแรงหรือมีปัจจัยอะไรใหม่ มาช่วยหนุ่นแบบแจ่มแจ้งนัก ต้องระวังกันหน่อยนะครับ

ส่วนถ้าหลุดเส้นแนวรับ (ให้เปิดกราฟเลือกไทม์เฟรมระดับเดือน แล้วลากเส้นเทรนด์ไลน์แนวรับครอบตั้งแต่มี 52 มาดูครับ) เส้นแนวรับนี้ถ้าหลุด กลัวแต่จะลงลึก ลึกแค่ไหน อาจจะเหลือไม่ถึงพันก็ไม่แปลกนะ

ในส่วนของโลกนี้ทั้งใบ สิ่งที่น่าจับตามองอย่างตื่นเต้นหนีไม่พ้นราคาน้ำมัน+ทอง ที่โดนผลกระทบจากวิกฤติการเมืองของโลก อย่างที่เคยเขียนๆไปในโพสก่อนหน้านี้ข้างล่างแหละครับ

ปี 2015 จะเป็นปีที่มีเรื่องอะไรเยอะแยะแน่ๆ(มันก็เรื่องเยอะทุกปี) แต่จะเป็นปีที่แนะนำว่าอย่าเฉื่อยชา อะไรหลายอย่างอาจจะกลับทิศกลับตัวในช่วงปีนี้ก็ได้ครับ

ในส่วนหนึ่งที่ผมย้ำมาน่าจะ 2 ปีกว่าแล้วก็คือ เรื่องการหมั่นหาความรู้เพิ่มเติม โลกนี้มันคงไม่แตกเป็นเสี่ยงๆ ถึงมีวิกฤติหนักๆ มันก็จะมีที่ให้เรายืนต่อสู้อยู่เสมอแน่นอนครับ

แล้วอาวุธที่เราจะใช้ต่อสู้ในวันนั้นก็คือ ความรู้ ประสบการณ์ของเรานี้เอง

สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุข สมหวัง พัฒนาในทุกๆด้าน

เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต ให้เจอตัวเองที่เป็นเด็กน้อย เขลากว่าวันปัจจุบันนี้

เมื่อมองก้าวไปในอนาคตให้เห็นภาพตัวเองผู้ชาญฉลาด ยืนสุขุมอยู่ต้นทางของแสงสว่าง

ให้มั่นใจและสบายใจได้ว่า ถ้าวันนี้เราเป็นนักเก็บเกี่ยวความรู้ ไม่มีทางที่ตัวเราเองในวันพรุ่งนี้จะเป็นคนคนเขลาหรือมีมูลค่าน้อยกว่าตัวเราเมื่อวานในอดีตครับ

ใครยังกลับไม่ถึงบ้าน หรือยังเที่ยวไม่ยอมกลับก็ให้มีความสุขเดินทางปลอดภัยครับ

มหาเกมสงครามการเงินโลก ที่ห้ามมองข้าม

ผมสงสารปูติน
มหาเกมสงครามการเงินโลก ที่ห้ามมองข้าม

มีเรื่องหนึ่งสำคัญมากๆ มากแค่ไหน ผมคิดว่าตั้งแต่สงครามเย็นจบ โซเวียตแตก รอบนี้เป็นการเผชิญหน้าครั้งใหญ่สุดของชาติตะวันตก กับรัสเซียแหละครับ แต่บ้านเราค่อนข้างเงียบเงียบมากๆ

เรื่องที่ว่าก็คือเรื่อง ปัญหาในรัสเซียตอนนี้ครับ

ผมแชร์เรื่องรัสเซีย ใน 2 โพสก่อนๆติดกัน วันนี้มาเขียนเป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยนะครับ มันสำคัญ และลองอ่านประดับความรู้ มันสำคัญสำหรับคนที่อยากเป็นนักอ่านทิศทางทรัพย์สินอยู่นะ

#ทั้งหมดนี้ไม่ใช้ข้อเท็จจริงเป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนต่อเรื่องนี้

ขอเริ่มเรื่องเมื่อ องค์การนาโต้เริ่มขยายตัวพยายามดึงประเทศแถบยุโรปตะวันออก(พวกใกล้ชิดรัสเซีย) เข้าร่วมองค์การเรื่อยๆ ซึ่งมันเท่ากับเป็นการจำกัดอำนาจของรัสเซียลงมาก

ในยูเครนมี ผู้ชิงตำแหน่งผู้นำ สองคน คนหนึ่งรัสเซียหนุน คนหนึ่ง ประเทศตะวันตกหนุน ผู้สมัครฝ่ายประเทศตะวันตกหนุนนั้นแน่นอนว่า เขาอยากเอาประเทศเข้าร่วมนาโต้ ตรงนี้รัสเซียยอมไม่ได้หรอก ยูเครนเป็นประเทศที่สำคัญที่สุดรองจากรัสเซียหลังจากแยกออกจากโซเวียตครับ

ในยูเครนมีกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับรัสเซียมากมายอยู่ ปล่อยไปเฉยๆก็ล่มจมสิ นั้นเป็นเหตุให้รัสเซีย สนับสนุนไครเมีย อย่างออกหน้าออกตา กรรมของคนยูเครน ประเทศคงไม่สงบไปอีกนานแหละครับ เรื่องนี้ถ้าเอาให้ละเอียดจริงๆมันยาวไว้มีโอกาสจะมาลงรายละเอียดเฉพาะครับ

ประเทศลูกน้องเริ่มปันใจออกห่างเรื่อยๆ เมื่อเป็นแบบนี้ ทางรัสเซียอยู่นิ่งไม่ได้หรอกครับ รัสเซียจับมือกับจีน และกลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วย "สถาน" อีกสามสี่ประเทศ พวกใกล้ชิดรัสเซียทางเอเชียกลางน่ะ จัดตั้งองค์การที่ตอนหลังใช้ชื่อว่า "องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้"

"องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้" นี้ทำความร่วมมือกันคล้ายๆนาโต้ หรืออย่างน้อยก็มีเป้าหมายที่จะเป็นแบบนั้น เมื่อทางซ้ายของรัสเซียพันธมิตรเริ่มหดหาย รัสเซียก็เริ่มมาจับมือกับพรรคพวกทางขวาละครับ

"องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้" นี้เริ่มขายตัวเรื่อยๆ มีรัฐสังเกตการณ์ ที่กำลังดูๆอยู่ตัวสำคัญๆ เลยคือ อินเดีย และ อิหร่านครับ

เกริ่นเรื่องเศรษฐกิจรัสเซียสักนิดสั้นๆ ถ้าคุณไม่เคยขับรถรัสเซีย ไม่เคยใช้มือถือหรือแทบเล็ทรัสเซีย ไม่เคยนุ่งกางเกงรัสเซีย ไม่เคยกินอาหารรัสเซีย และไม่เคยไปเที่ยวรัสเซีย นั้นแหละครับบอกให้รู้ว่า ตัวสินค้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจรัสเซียที่สำคัญคือ "พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ" รัสเซียผลิตพลังงานได้อันดับสองของโลก

เมื่อ เดือน พค ที่ผ่านมานี้ กลุ่ม เซี่ยงไฮ้ นี้เริ่มร่วมมือกันใช้เงิน หยวน กับ รูเบิล ในการซื้อขายกัน แทน USD และนี้แหละครับทำให้ระเบิดเริ่มลง

พอประกาศได้สักแป้บนึ่งให้ดูกราฟราคาน้ำมัน ตรงที่วงกลมนั้นแหละครับคือช่วงที่เขาเริ่มไม่ใช้ USD ในการติดต่อค้าขายในกลุ่มเซี่ยงไฮ้

ตรงนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมราคาน้ำมันที่วิ่งอยู่ในกรอบดีๆ และเอาเข้าจริง มีแนวโน้มจะเบรกขึ้นด้วยนะ กลับหัวทิ่มลง ถึงตอนนี้ก็ลงมาครึ่งหนึ่งแล้วครับ ช่วงนี้นี่เองที่มีการอัดอุปทานน้ำมันเข้ามาจากใครก็ไม่รู้คร้าบ

ราคาตอนนี้มันลงมาถึงจุดต่ำสุดของเทรนด์ ที่ยาวมาตั้งแต่ ปี 44 และ 52 ตอนมีวิกฤติเศรษฐกิจใหญ่ของโลก(ถ้าเราเทียบราคาน้ำมันตอนนี้กับสถานการณ์การเงินของโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเงินปั้มออกมามากเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆของประเทศตะวันตก มูลค่าของเงินตอนนี้มันต่ำกว่าจุดต่ำสุดของราคาน้ำมันตอนนั้นแล้วแน่ๆคร้าบ)

โอป่ง โอเปก ไม่ร้องไม่บ่นสักแอะ ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องมีมาตรการอะไรสักอย่างออกมาแก้แล้วคร้าบ จะลดกำลังการผลิต หรืออะไรก็ว่าไป เขาเงียบเพราะอะไรก็ไปดูรายชื่อสมาชิกของเขาเอา ผองเพื่อนอเมริกันทั้งนั้นคร้าบ

น้ำมันตกขนาดนี้เพราะอะไรให้ย้อนกลับไปดูตรงที่บอกว่าเศรษฐกิจของรัสเซียมันอยู่ได้เพราะพลังงานครับ เมื่อราคาน้ำมันตกครึ่งหนึ่งแบบนี้ รัสเซียซวยหนักครับ แต่ว่ามันยังไม่จบนะ

ในกรณีไครเมียในยูเครน รัสเซียโดนฝั่งตะวันตกลงโทษฐานที่เข้าไปยุ่ง โดยการคว่ำบาตรครับ มันยิ่งทำให้แย่ลงไปอีกนะ แล้วมันก็ยังไม่จบแค่นั้นสิครับ

ค่าเงินรูเบิลยังถูกทุบด้วยใครก็ไม่รู้อีกแล้ว (ซึ่งพอจะเดาได้จากการแก้เกมส์ของรัสเซียด้วยการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแรง ก็แก้เกมทีมทุบค่าเงิน ซึ่งน่าจะมีนายจ้างคนเดียวกันกับ พวกปล่อยอุปทานน้ำมันมานั้นแหละครับ)

ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมายืดยาว ต้องการจะชี้ให้เห็นเหตุการณ์ต่างๆดังนี้
1. เริ่มมีการกดดันรัสเซียจากชาติตะวันตกทางฝั่งนาโต้
2. รัสเซียเริ่มร่วมมือกับจีนก่อตั้งองค์การเซี่ยงไฮ้คานอำนาจ
3. เมื่อมีการเริ่มไม่ใช้ USD ในกลุ่มองค์การเซี่ยงไฮ้(ทำให้ตะวันตกต้องทำไรสกัด)
4. แหย่หนวดเสือที่ยูเครน ซึ่งรัสเซียเสียไปไม่ได้อยู่แล้ว มันคือการเสนอสงครามโดยที่รัสเซียจำเป็นต้องร่วม
5. จากข้อ 4 ได้ข้ออ้างคว่ำบาตร
6. เริ่มทุบน้ำมันกับรูเบิลทำให้รัสเซียลำบากไปใหญ่

ทั้ง 6 ข้อนี้ถ้าเราไม่โลกสวยมากไปเราคงพอจะประมวลได้ว่ามันมีโอกาสเกี่ยวข้องกันสูง ซึ่งถ้ามันเกี่ยวข้องกันจริงมันคืออะไร

- มันคือแผนสกัด องค์การเซี่ยงไฮ้ ใช่ไหม
- มันคือแผนการรักษาเสถียรภาพ USD ซึ่งพักหลังนี้ขลังน้อยลงใช่หรือเปล่า(พักก่อนปูตินพูดบ่อยๆถึงความเหลวกแหลกของ USD)
- มันคือการเชือดหมีให้ลิงที่สังเกตุการณ์อยากเข้าร่วมกลุ่มคนไม่นิยม USD ดูเป็นเยี่ยงใช่ไหม

ต่อไปนี้รัสเซียจะไปต่อยังไง ท่านปูตินจะแก้เกมนี้ได้ไหม(หรือจะกระเด็นออกไปก็ไม่รู้) จีนจะช่วยกันกับรัสเซียทำอะไร(ตรงนี้สำคัญ) ประเทศอย่างอินเดียวที่เป็นยักหลับตอนนี้ เจอเหตุการณ์แบบนี้จะยังอยากเข้าร่วมกลุ่มด้วยหรือเปล่า

เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องจับตามองอย่างมากคร้าบ ยักษ์สู้กัน คนตัวเล็กๆอย่างไทยแลนด์ มันไม่รอดที่จะโดนสะเก็ดกระเด็นใส่ไปด้วยหรอก

เรื่องนี้สนุก ตอนนี้เราก็ดีใจกันได้ใช้น้ำมันถูกดี แต่ไม่รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปพอเขาเริ่มแก้เกม จะเห็นว่าเหตุการณ์ต่างๆในโลกนี้มันดูยังไงก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเกิด คือมันมีแผนอยู่แล้ว มันมีลำดับการเกิด มันมีอะไรประเภท "ทฤษฎีสมคบคิด" (ที่จริงไม่อยากใช้คำนี้เพราะมันเหมือนเป็นคำของพวกหลุดโลก)

แล้วจีนกับรัสเซียก็พอจะมีทองอยู่บ้างซึ่งถึงจะน้อยกว่าอเมริกามาก แต่มันมีนัยสำคัญนะครับ ตรงนี้ให้จับตาเป็นพิเศษกันด้วย ทั้งขาขึ้นขาลง ให้ระวังกันดีๆ

ไว้มีโอกาสจะมาต่ออีกนะครับ


  อเมริกันเขากลัวขึ้นสมองเรื่องทฤษฏีแอปเปิลเน่า หรือโดมิโน มาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นแล้วครับ

ใครที่ไม่ไปในทิศทางของอเมริกัน มักถูกเตะตัดขา เพราะถ้าไม่ตัดขา แล้วดันเกิดทำสำเร็จ จะมีชาติอืนๆทำตามต่อๆไป เหมือนแอปเปิลในตระกร้า เน่าผลเดียว เดี๋ยวก็เน่าทั้งตะกร้าครับ

ประเทศปฏิเสธ USD สองสามประเทศ ถ้าไม่ล่มจม เดี๋ยวประเทศอื่นๆก็เอาตาม

นั้นละทุนนิยมโลก มหามิตรนี้มันไม่มีหรอก มีแต่ศัตรูชั่วคราว กับ ศัตรูถาวร 555 


กราฟน้ำมันที่พูดถึงในบทความ


การจะเป็นสกุลเงินหลักๆได้มันมีหลายมิติประกอบกัน

การจะเป็นสกุลเงินหลักๆได้มันมีหลายมิติประกอบกัน

ครั้งหนึ่งผมเคยเขียนและลงบทความเกี่ยวกับความไม่สมประกอบในสถานะการเป็นสกุลเงินตราของบิทคอยน์ (นานแล้วหาอ่านได้ในบล๊อก)
โดยผมให้เหตุผลว่า

การจะเป็นเงินสกุลหนึ่งๆได้มันมีมิติมากกว่าความเพอเฟ็คของคอนเซ็ปของการสร้างเงินสกุลนั้นๆ

ไม่ว่าจะเป็นหลักประกันทางเศรษฐกิจ การเมือง ขาใหญ่ทึ่ถืออยู่ หรือแม้แต่เรือรบ รถถัง เครื่องบินรบ ระเบิดนิวเครียร์ ฯลฯ

เหล่านั้นคือสิ่งทึ่บิทคอยน์ไม่มีเลย จึงทำให้มันเป็นเพียงแค่สกุลเงินในจินตนาการ มากกว่าที่จะเกิดแบบจริงจังได้ในเวลาอันใกล้นี้

ครั้งนั้นที่เขียนลงมีคนไม่เห็นด้วยมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยพยายามให้เหตุผลมากมายถึงความสมบูณร์แบบของมัน รวมถึงคิดว่าผมตกโลกยึดติดว่าเงิน USD ต้องเป็นเงินหลัก

ผมไม่ได้ยึดติดหรอกครับ สกุลเงินมันมีมิติกว่านั้นจริงๆ การจะมีสกุลเงินใหม่ๆมาแทน USD นั้นเกิดขึ้นได้แน่นอน แต่ไม่ง่าย เพราะคุณต้องเอาชนะอะไรประเภท " หลักประกันทางเศรษฐกิจ การเมือง ขาใหญ่ทึ่ถืออยู่ หรือแม้แต่เรือรบ รถถัง เครื่องบินรบ ระเบิดนิวเครียร์" นี้ให้ได้เสียก่อน

ขนาดรัสเซียยังโดนถล่มเละถ้าใครติดตามเรื่องนี้มาแต่ต้น ปัญหาที่รัสเซียเข้าไปยุ่งแต่แรกมันมีลับลมคมในเยอะ ใครสนใจเรื่องเกี่ยวกับ ทฤษฏีสมคบคิดหน่อยๆ จะจินตนาการความเป็นไปได้ของแผนการสกัดดาวรุ่งนี้ได้หลายฉากเลย

จิน ก็มีช่องให้สกัดเยอะกว่ารัสเซียด้วยซ้ำ ส่วนบิทคอยน์ยิ่งแล้วใหญ่
ตรงนี้คือตัวอย่างทีีทำให้เห็นภาพง่ายมากที่สุดว่าบิทคอยน์ยังขาดอะไรอีกมาก และมันคงตลกดีถ้าจะไปฟันธงตั้งแต่ตอนนี้ว่ามันจะเป็นสกุลเงินหลักของโลก บิทคอยน์เบาโหวงไม่มีอำนาจใดๆเลย
เอาใจช่วยรัสเซียให้ผ่านไปได้ครับ

ทั้งหมดนี้มาจากข่าว http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1419133762

แนะนำคนรุ่นใหม่ คิดว่าทำเอาไว้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงินเก็บในอนาคตดีกว่าครับ

แนะนำคนรุ่นใหม่ คิดว่าทำเอาไว้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงินเก็บในอนาคตดีกว่าครับ
ถ้ารวยเร็วได้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ รวยเร็วไม่ใช่เหตุผลที่ดีของการลงทุน

เพราะพวกอยากรวยเร็วนี้มันพลาดง่าย เวลาศึกษาหาประสบการณ์มีน้อย เพราะมันรีบ ส่วนมากก็ล้มไม่เป็นท่า

ให้เวลากับการศึกษาหาความรู้เยอะๆ ค่อยๆทำไปเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เวลารวยที่เหมาะสมจะมาถึงเองแน่ๆ

มีความสุขวันสุดสัปดาห์กันครับ

เซทวันนี้ รีบาวด์กลับมา 61.8% ของที่ลงไปพอดี

พูดละเอียดยืดยาวมันมักงง แล้วพาลจะไม่อ่านกัน 555 เอาไว้ค่อยรวบแบบละเอียดเวลาถึงจุดสำคัญหรือ สักอาทิตย์ละครั้งพอ

เซทวันนี้ รีบาวด์กลับมา 61.8% ของที่ลงไปพอดี ตรงนี้เป็นแนวต้าน และมีแนวรับเป็นเส้น ema 200 ที่รองอยู่นั้นแหละครับ ตรงนี้สำคัญนะ ถ้าไม่ผ่านก็มีสิทธิ์ลงไปเทสโลว์เดิมหรือมากกว่า

เงื่อนไขง่ายๆของตอนนี้คือ
1 ถ้าเบรกแนวต้าน ต้านสำคัญต่อไปก็ไฮก่อนหน้า(หรือเกือบถึง) ไปเช็คแรงที่นั้น ซึ่งพูดก็พูดดูลักษณะตอนนี้ไม่มีไรชี้ว่าจะหนุนให้มีแรงเยอะผ่านไฮเดิมนั้นไปได้ง่ายๆ
2 ถ้าหลุด ema 200 นั้นลงมา ก็อย่างที่บอก มีสิทธิ์ลงไปเทสอย่างน้อยโลว์เดิมหรือต่ำกว่า(กรณีเวฟ c)

เท่านี้ท่านก็จะได้เงื่อนไข และจุดระวังต่างๆในระยะสั้นนี้แล้วครับ
ไปเพิ่มเติมด้วยการดูแรงดูโมเมนตั้ม ในระยะไทม์เฟรมที่สั้นลงเอา

การใช้เทคนิคคอลกับราคาสินค้าคือการมองหาเงื่อนไขเพื่อที่เราจะได้เอาไปจัดการกับการเทรด ย้ำว่ายังไม่เคยเห็นใครเอาไปทำนายอนาคตได้อย่างยั่งยืน

ย้ำอย่างที่เคยบอก สำหรับรอบนี้ ไม่ได้มีเงินใหม่เข้ามาจากเมืองนอก รอบนี้ยังไงๆ ก็ต้องเล่นแบบระวังมากๆมาตั้งแต่ต้น

โชคดีมีสุขครับ


โดยส่วนตัวผมไม่สนข่าวลือไรพวกนั้นเลย มันทำให้พานิคได้จริงซึ่งก็ยิ่งดี

โดยส่วนตัวผมไม่สนข่าวลือไรพวกนั้นเลย มันทำให้พานิคได้จริงซึ่งก็ยิ่งดี แต่ว่าก่อนมันจะลงอาการมันออกมาสักพักใหญ่ๆแล้วนิ

และไอ้อาการที่บอกว่าออกมาพักใหญ่ๆแล้วนี้ไม่ได้เพิ่งมาพูดหลังมันเกิดแล้ว ไปดูกราฟเก่าๆก็มีเงื่อนไขให้จับให้วางให้ระวังมาตลอด

เมื่อกี้มีข้อความส่งมาพูดถึงเรื่องข่าวไม่ค่อยดีเหมือนที่หลายๆคนคงได้ยินมา ไม่ขอลงรายละเอียด

โดยส่วนตัวผมยังเชื่อว่าหุ้นมันขึ้นไปเทสแนวต้าน แล้วไม่ผ่านแบบหมดแรง ถ้าไปดูกราฟเก่าๆก็จะเห็นว่าแต่ละขั้นแต่ละลำดับของ แนวรับแนวต้านมีอธิบายมาเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นราคาไม่มีคนไล่ เงินใหม่ฝรั่งไม่เข้า แล้วถ้าไปนับเวฟนี้ก็เห็นนะ ลองค้นโพสเก่าๆดู

ในส่วนของข่าวนั้น มันปฏิเสธไม่ออกหรอกว่า มันไม่เกี่ยวข้องเสียเลยทีเดียว แต่มันไปมีผลตรงที่พานิคมากกว่า

และนิยามของพานิคอย่างหนึ่งคือ "ัมันจะไม่พานิคไปตลอด"

ผมคิดว่ายึดมั่นกับวิธีกระบวนการของระบบเดิมของเรานั้นแหละดีแล้ว ให้คิดดูเปรียบเทียบเอง ถ้าข่าวนั้นเป็นจริงมันกระทบระยะยาวๆหน่อยกับ ตลาดเราจริงไหม

- ถ้าตอบว่าจริง เงื่อนไขเป็นยังไงก็คิดวางกัน
- ถ้าไม่จริง เราควรรอเสียบรอรับตรงไหนก็จัดเงื่อนไขไว้

พอพูดมาถึงตรงเงื่อนไขที่ต้องใช้กับข่าวลือนี้ มันก็หนีไม่พ้นเทคนิคคอล จับตาดูแรง ดูโมเมนตั้มอีกอยู่ดี

เลยขอสรุปว่า ใช้ระบบเดิมนั้นแหละ ข่าวลือก็ไม่ได้ทำให้เกิดข้อยกเว้น


จากแนวรับหลักของกราฟก่อนนี้ แถวๆ 1510-1520 มันคือแถว ema 200

จากแนวรับหลักของกราฟก่อนนี้ แถวๆ 1510-1520 มันคือแถว ema 200 ตามลูกศรน้ำเงินชี้ครับ วันนี้ไม่ต้องพูดถึงกระโดดลงหลุดลุ่ย ไปที่รับต่อไปคือ 61.8% ตามลูกศรแดงชี้

โวลุ่มมหาศาล แนวรับหลักตอนนี้ยังเป็นที่เดิม จุดลูกศรแดงนั้นแหล
เย็นนี้จะมาตีละเอียดอีกทีครับ

ใครขยันไปตีไปศึกษาก่อน สังเกตุโมเมนตั้มก่อนลงสิ เกิดอะไร แล้วลองไปดูเล่นๆในไทม์เฟรมเล็กๆด้วยว่าโมเมนตั้มเป็นยังไง ควรช้อน หรือรอก่อน ให้ดูที่ #โมเมนตั้มนี้แหละ

ไดเวอร์เจนซ์ไม่มาถ้าเข้าไปรับ ก็เลือดสาดมีดบาดเป๋า

เพิ่มเติมแก้ไข แนวรับที่หลุดเบรกลงมากลายเป็นแนวต้านไปในตัวนะครับ


เวลาเจออะไรแบบนี้นักลงทุนที่เตรียมตัวตลอดไม่ได้ตกใจไรกับเขาหรอกครับ

อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อราคาน้ำมันโลกดิ่ง สัญญาณ"เตือนภัยอันตราย"ที่กำลังมาเยือน!
จากข่าวข้างบน
เวลาเจออะไรแบบนี้นักลงทุนที่เตรียมตัวตลอดไม่ได้ตกใจไรกับเขาหรอกครับ
สิ่งที่ต้องทำคือ "สงสัย"
สงสัยอะไรละ ? คำตอบก็คือสงสัยว่าเงินมันจะไปไหน
ไปที่ทองดีไหมน้อ ว่าแล้วก็ไปดูโมเมนตั้มของทอง ท่านก็จะได้เงื่อนไขให้ทำงานต่อ

รอบมันต่อกันนานๆเรื่องบังเอิญถึงเกิดทีแต่สำหรับเรื่องนี้ไม่บังเอิญแน่ๆ มันต่อรอบกันครับ

เรื่องบังเอิญคือเรื่องปัจจุบันทันด่วน ไม่ใช่อะไรอบบนี้

ทองคำเหมือนเดิมครับ แชร์อันเดิมแล้วกันครับ

ทองคำเหมือนเดิมครับ แชร์อันเดิมแล้วกันครับ ช่วงนี้มีเวลามาอัพเดตน้อย เดี๋ยวพออะไรลงตัว งานรันได้ด้วยตัวมันอีกสักนิด จะกลับมาโพสรายวันเช่นเคย อย่าเพิ่งจากกันไปไหนนะคร้าบบบ

ปลเพิ่มเติมสักนิด น้ำมันราคาลงเรื่อยๆ แนวรับต่อไปของน้ำมัน 50-55 (ลักษณะเป็นแนวรับปลายของคลื่นสี่บนยอดคลื่นหนึ่ง) ตรงนี้คิดเล่นๆแล้วกัน เงินจะไหลไปลงไหน

ไปดูโมเมนตั้มการขายของทองนะครับ มันไม่ได้แรง รายละเอียดที่ว่าถ้าทองลงแล้วโมเมนตั้มไม่แรงมีสมมุติฐานยังไงก็อ่านจากในกระทู้ที่แชร์นี้แหละคร้าบ

โชคดีคร้าบ
มาหัดดูวิเคราะห์กราฟทองกันที่นี้เลย ละเอียดยิบ

กราฟเก่ายังใช้ได้นะครับ วันนี้มาทวนอีกสักหน่อย วันที่หุ้นลงลึก ทีแรกกะจะมาทักตอน 1550

ช่วงนี้ยังไม่สะดวกทำกราฟใหม่เลย แต่กราฟเก่ายังใช้ได้นะครับ วันนี้มาทวนอีกสักหน่อย วันที่หุ้นลงลึก ทีแรกกะจะมาทักตอน 1550 แต่มันโดดข้ามมาก่อนละ T_T

หุ้นขอใช้กราฟเก่า หลังจากไป ชน 1600 สองรอบไม่ผ่าน แรงอ่อนๆก็ลงตามระเบียบครับ(ลักษณะดับเบิลทอป) อย่างที่บอกในกราฟก่อนว่าระวังจะเป็น เวฟc ซึ่งแนวรับตอนนี้อยู่ที่ 1510-1520
กราฟก่อนไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ->https://www.facebook.com/ThaiTraderPage/photos/a.205203229516556.43320.205203022849910/741310625905811/?type=1&theater

ในส่วนของการซื้อขายสุทธิของปีนี้เป็นปีที่คนไทยเล่นกันเอง ดูตามรูปการซื้อขายสุมธิ ประกอบ ไทยย่อยโยนให้ไทยใหญ่ และอีกครั้งต้องระวังว่าสุดท้ายไทยใหญ่จะโยนคืนเช่นกัน

ข้อสังเกตุ ตอนนี้ หุ้นทำดับเบิลทอป 1600 ส่วนค่าเงินบาทก็ทำ ดับเบิลทอป(เงินอ่อน) ที่ 33.1-33.2 เช่นกัน ตรงนี้จึงเป็นแนวต้านระยะสั้นของเงินบาท
ทำให้เราสามารถสร้างเงื่อนไขคร่าวๆจากข้อมูลตรงนี้ได้ดังนี้
1. ถ้าเงินบาทอ่อนทะลุแนวต้านนี้ไป หุ้นจะลงอีกลึกอีกไกล ฝรั่งขายร่วมอีกก็ระวังมากๆ
2. ถ้าเงินบาทคาๆอยู่ตรงนี้แถมแข็งย่อลงมา แบบนี้อาจจะมีช่วงเด้งระยะสั้นให้หุ้น พอชื้นใจ

แต่อย่างที่บอกมาหลายครั้งรอบนี้ ถ้ายังไม่จบพักรอบของเวฟแบบครบถ้วนซึ่งผมไม่คิดว่ารอบนี้มันจะลงน้อยเท่านี้ เพราะแรงมันอ่อนในระดับสัปดาห์นี้ ยังไงก็ขอคิดในแง่ร้ายไว้ก่อน

เดี๋ยวมาต่อที่ทองกราฟเก่าเหมือนเดิม

ช่วงนี้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก งานใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งก็ต้องดูแล ช่วงที่ผ่านมาญาติเสียอีกสองคน (RIP) ทำให้วุ่นวายไม่มีเวลามาอัพเดตกราฟ มาพูดคุยกันเลยครับ

ช่วงนี้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก งานใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งก็ต้องดูแล ช่วงที่ผ่านมาญาติเสียอีกสองคน (RIP) ทำให้วุ่นวายไม่มีเวลามาอัพเดตกราฟ มาพูดคุยกันเลยครับ

ทวนสักนิดเริ่มจากทอง ดูโพสล่าสุดได้เลยทุกอย่างยังเหมือนเดิม ใช้สติ ถ้าราคาลงให้ยิ่งดูแรงดูโมเมนตั้มนะครับ แนวรับแนวต้านหลักรอง ดูกราฟก่อนหน้าได้ เน้นดูแรงอย่าไปดูข่าว ไอ้ที่บอกจะลงอีกจะขึ้นแล้วนี้หาต้นสายปลายเหตุไม่เจอเลย ดูแรงว่าคนยังอยากขายไหมเมื่อเทียบกับช่วงก่อน อันนี้คือข้อมูลจริงอย่างเดียวเลยที่เรามี เอาตรงนี้ไปประกอบการตัดสินใจเอาครับ

ข้ามไปดูหุ้น ก็ดูกราฟเดิมนั้นแหละได้เลย ข้างล่างๆที่เคยโพสไว้ล่าสุด ต้านแรก พันหก ถ้าเบรกได้ไปพันหกห้าสิบอีกที และอีกครั้งให้ดูแรง อย่าไปหวังไรมากอย่าไปวางใจ ตั้งแต่นี้ไปให้ระวังตลอด เงินเมืองนอกเงินฝรั่งมันไม่มีมาใหม่นานแล้วนะ ใครชะล่าใจช่วงนี้ระวังโดนเรียกคืนกำไร เคยพูดไว้เป็นปีละ ช่วงก่อนจบรอบหนึ่งรอบไหน ฝรั่งไม่เข้าเพราะเขาเงินเยอะมันหมุนมันโยกช้า ปลายรอบเขาเลยเอาเงินไปลงตลาดที่มีช่องกำไรกว้างกว่าแทน ดังนั้นระวังสุดถ้ายสถาบันไทย กับไทยรายย่อยนี้ละโยนให้กันเอง คนโดนโยนใส่มักเป็นรายย่อย

รอบใหม่รอบยาวๆเขาจะว่าไปกี่หมื่นกี่พันจุดก็อีกเรื่อง ระยะเหตุการณ์ตอนนี้ที่เห็นเป็นยังไงให้เป็นตามนั้น ให้ดูให้จัดการไปตามข้อมูลจริง สองสามพันจุดอาจมาถึงจริงแต่ถ้าไม่ระวัง อาจจะโดนหุ้นลงแค่สองร้อยสามร้อยจุดปิดเกมส์ของคุณไปก่อนถึงเป้าสามพันจริงครับ

ในส่วนของการศึกษา นี้ก็อย่าให้ช้า อย่าละเวลาเปล่า หมั่นอ่านหมั่นฝึก ผมไม่รู้คนอื่นเป็นยังไง สำหรับผมเองเวลาปกติว่างปุ๊บเปิดดูกราฟหาฝึกหาหุ้นตีเล่น เพื่อคลายเครียดจากงานอื่นๆ อันนี้พูดจริงๆตีกราฟคลายเครียดเหมือนได้เล่นเกมส์

ได้ใช้วิชาที่ศึกษามาได้ทดสอบ ตีเยอะๆ มันยิ่งคล่อง มันจะมีหลายๆสิ่งในเทคนิคคอล ที่ถ้าทำบ่อยๆมันจะรู้เองอัตโนมัติแบบเดียวกับเวลาเราหัดปั่นจักรยานครับ ปั่นเป็นแล้วอธิบายไม่ถูกว่าเป็นยังไง แต่มันรู้เอง เหมือนกับว่ามีเซ้นส์เรื่องนั้นๆไปในตัว

ดังนั้น การเป็นนักลงทุนนี้มันเล็กน้อยและง่ายมากใครก็ทำได้ เอาเงินโยนลงพอร์ทก็เป็นได้แล้ว การเป็นนักศึกษานี้แหละยิ่งใหญ่ มันเป็นตัวชี้ความแตกต่างของผู้แพ้กับผู้ชนะในตลาดระยะยาว

อย่าเป็นแค่นักลงทุน เป็นนักศึกษาด้วยครับ

ขออนุญาตน้อง นศ เจ้าของรูปด้วยครับ เอามาประกอบบทความ


มาหัดดูวิเคราะห์กราฟทองกันที่นี้เลย ละเอียดยิบ

ทองๆๆๆๆๆ

ย้อนกลับไปที่กราฟเก่า ที่โพสกันมาเป็นปีๆ แล้ว ก็ยังใช้ได้ในภาพกว้างใหญ่สุด เราเท้าความกลับไปสักนิดพอให้เห็นแนวสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่นะครับ

ส่วนนี้อิงคอนเซปพื้นฐานของอีเลียทเวฟ หน่อยนะครับ ถ้าใครชอบหรือกำลังศึกษาอยู่ก็อ่านเล่นดู แต่ถ้ายังไม่ ก็ข้ามไปตรงที่ผมมาร์ก **** ยาวๆไว้ข้างล่างเลย

เริ่มที่ดูในกราฟแรก(กราฟเดือน) ตรงเฉพาะเส้น fibo สีแดงก่อน ตรงนี้เราเอาไว้วัดขนาดเวฟ ของขาขึ้นใหญ่ จะเห็นว่าเวฟที่ 3 ของรอบใหญ่สุดนี้ไปจบที่ 132.8% ของเวฟที่ 1 ตรงนั้นไม่มีไรสำคัญแล้วในตอนนี้ แต่สิ่งที่อยากจะชี้ให้เห็นคือ เมื่อจบเวฟ 3 ในสินค้าที่เก็งกำไร เวฟ 4 มันมักลงไปถึงยอดของเวฟ 1 หรือ กว่านั้นได้

ข้ามมาส่วนที่ 2 ในกราฟเดิมนี้ ให้ดูที่เส้น fibo สีน้ำเงิน ตรงนี้คือการ วัดขนาดของเวฟย่อยๆ ของเวฟ 4ซึ่งถึงตอนนี้ ราคาทองได้ลงมาเป็นขนาด 100 % ของเวฟ แรก ของเวฟที่ 4 แล้ว และที่ยอดของเวฟ 1 ใหญ่ นั้นคือขนาด 161.8% ของเวฟย่อยของเวฟ 4 เลขนี้มีนัยยะคุณก็รู้

ช่วงที่ผ่านมาประมานปีครึ่ง ที่ราคาทองวิ่งอยู่ในกรอบ 3 เหลี่ยม(เส้นเทรนด์ไลน์สีแดง) ตรงนี้เป็นตัวที่ให้ย้ำจับตามาตลอดโดยมีเงื่อนไขหลักดังนี้

#เงื่อนไขหลัก
1. ถ้าเบรกสามเหลี่ยมนั้นตามลูกศรสีเขียว เราจะมีโอกาสได้เล่นรีบาวด์ระยะกลาง ซึ่งแนวต้านหลักๆที่สำคัญจะอยู่แถวๆ 4i ซึ่งจะถือว่าเป็นการจบเวฟ 4iii เพื่อไปเวฟที่ 4iv ซึ่งถ้าผลลัพธ์ออกทางเงื่อนไขนี้เรามีโอกาสได้เล่นอยู่ช่วงใหญ่ ซึ่งเงื่อนไขนี้ ถึงจะดูไม่ดีแล้วแต่มันยังไม่ได้ถูกทำลายเรียบเสียทีเดียวนะครับ

2. ถ้าเบรกสามเหลี่ยมนั้นลงตามลูกศรแดง ตรงนี้คือแนวโน้มที่จะลงไปเพื่อจบเวฟ 4 ใหญ่นี้เลยหรือ ย้อนกลับวกไปที่ข้อ 1 (ตรงนี้ยังมีเงื่อนไขอีกเยอะอยู่ครับ เดี๋ยวเราจะว่าเงื่อนไขกันในกราฟที่ 2) ซึ่งว่าที่จริงแล้วเมื่อราคามันเลือกมาที่เงื่อนไขที่ 2 มันยิ่งได้ลุ้นไปอีกแบบ ได้ลุ้นยังไง ดูกราฟที่ 2 เลยครับ
----------------------
กราฟที่ 2 ก่อนอื่นไม่ต้องสนใจเลขเวฟ ที่อยู่บนกราฟ เพื่อไม่ให้งง จะมีบางส่วนที่ผมจะอธิบายเพื่อให้มองภาพนี้ง่ายๆ

ตรงนี้จะมีเส้น fibo สีเขียว ทีตีไว้เพื่อวัดขนาดเวฟย่อยของเวฟที่ 3(iii) ของเวฟ ที่ 4(ใหญ่อีกที) ตรงนี้ถ้าใครงง ลองหาบทความอ่านเพิ่ม เรื่องเทรนด์ใหญ่มีเทรนด์เล็กๆซ่อนอยู่ ในแต่ละเวฟใหญ่จะมีเวฟ ย่อยๆ ซ่อนอยู่นั้นแหละครับ ถ้านับเฉพาะส่วนของขาลงเวฟ 4 ใหญ่นี้ ตอนนี้ มันคือ ช่วงที่เรากำลังมองหาเงื่อนไขเพื่อตัดสินใจว่ามันเป็น จุดจบของเวฟ 3 ย่อย หรือ ตอนนี้กำลังจะไปที่เวฟ 5 ย่อย ของเวฟ 4

ตรง 4iii1 นั้นคือเวฟแรกที่เราลาก fibo คล่อม เพื่อจะหาว่า 4iii3 หรือ 4iii5 นั้นมันมีจุดไหนที่ควรต้องจับตา และเราได้จุดที่ 161.8% ของ 4iii1 นั้นแหละเป็นจุดสำคัญที่ต้องจับตา ตรงนี้เป็นแนวรับสำคัญ จะเห็นว่าราคาลงมาแถวๆนี้ 3 รอบ ในรอบประมาณปีครึ่งแล้วไม่หลุด

ที่ 161.8% ตรงนี้จึงเป็นจุดวัดที่ดีเมื่อเราย้อนกลับไปดู เงื่อนไขหลัก ที่เขียนไว้ข้างบนนั้น

โดนตรงนี้มี #เงื่อนไขย่อยว่า
1 ถ้าราคาไม่หลุด เงื่อนไขหลักข้อที่ 1 คือสิ่งที่เราให้น้ำหนักมากกว่าว่าตอนนี้เราอาจจะได้โอกาสลุ้นเด้งยาวๆไปในส่วนของ 4iv
2 ถ้าราคาหลุด เงื่อนไขที่ 2 คือสิ่งที่เราให้น้ำหนักมากกว่า

ณ ตอนนี้ราคามันยังไม่หลุด 161.8% ที่เราวัดไว้นี้ ดังนั้นจุดนี้คือจุดลุ้นรีบาวด์ ถ้าไม่หลุดมันยิ่งคอนเฟิร์มแนวรับตรงนี้ว่าแข็งแกร่ง

แต่ถ้าหลุด แนวรับหลักจริงๆ ต่อไปคือ ยอดเวฟ 1 ในภาพกราฟแรกเลยครับ โดยระหว่างทางจะมีเงื่อนไขอีกเพียบ ตรงนี้ถ้าหลุดจริงค่อยมาดูย่อยๆกันอีกที

************************************************************

สรุป สำหรับคนที่ไม่อ่านส่วนรายละเอียดข้างบน หรืออ่านมาแล้วก็ตาม ให้ดูที่กราฟที่ 2 ซึ่งเป็นกราฟ ระดับวัน ราคาทองจุดที่ผมวงกลมสีแดงๆทั้ง 3 จุดนั้นคือแนวรับที่มีนัยสำคัญ คือจุดที่ต้องจับตาตอนนี้

จุดนี้ไม่ใช่จุดแนวรับมั่วๆ (มีขนาด 161.8% ตามรายละเอียดข้างบนไม่อธิบายซ้ำละนะครับเดี๋ยวยาว) ซึ่งราคาเทสตรงนี้สามครั้งในรอบ ปีครึ่งที่ผ่านมาราคายังไม่หลุด

ซึ่งในรอบนี้ที่จุดนี้ ( แถวๆนี้ 1150-1170) ถ้ามันเอาอยู่อีกครั้ง มันจะยิ่งสร้างความมั่นใจมากๆ ให้กับนักลงทุนทั่วไป ว่ามันเป็นแนวรับจุดที่แข็งจริง ในทางเทคนิคคอลมีชื่อเรียก ทริปเปิลๆ ไรนั้นแหละครับ ซึ่งโดยปกติ เทสต้านบนสามครั้งไม่ผ่าน คนก็กลัวแล้วครับ ทางตรงกันข้าม ถ้าเทสแนวรับล่างสามครั้งแล้วยังเอาอยู่ คนก็จะเริ่มกล้าแล้วละ ตรงนี้ถ้าไม่หลุดจึงเป็นจุด น่าเก็บนะ

#แต่ถ้าหลุด ให้ไปดูกราฟแรก ลูกศรสีแดงนั้นคือเส้นทางต่อไปของราคาทอง โดยมีแนวรับหลักสำคัญ อยู่ที่ ยอดเวฟ 4 หรือแถวๆ 980-1000 อะไรแถวนั้น

ณ ตอนนี้ราคามันยังไม่ได้หลุดแนวรับ กำลังเทสอยู่ ในกรณีที่หลุดเราค่อยมาดูเงื่อนไขย่อยๆระหว่างทางกันอีกที

ซึ่งถ้ารับนี้เอาอยู่ก็อย่าตกรถก็แล้วกัน

-------------------------
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสักนิด ราคาทองนั้นมันไม่ใช่แค่สินค้าที่รายย่อยเราเก็งกันเท่านั้น มันมีความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศใหญ่ๆหลายประเทศ เพราะงั้น ประเทศเหล่านี้(จีน รัสเซีย .... อื่นๆ) จึงเป็นรายใหญ่ หรือเอาให้ เข้าใจง่ายๆแบบหุ้นไทยเราคือ พวกนี้เป็นเจ้ามือใหญ่ของตลาด

ถ้าเขายัน หรือ เขาตบ มันมีผลแรงกับราคาสูง คนที่เล่นควรเคร่งครัด อย่าไปยึดติดกับกฏในหนังสือมากไป ต้องพร้อมปรับตามเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น เขาไม่ให้ลงมันก็ไม่ลงนะ มันซับซ้อน มันเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการเงิน มันเป็นส่วนหนึ่งของสงครามแย่งความเป็นผู้นำโลกครับ เราตัวเล็กๆ อย่าไปฝืน เขาไปทางไหนก็ปรับตัวไปตามเขานั้นแหละครับ




บัญชีที่แย่คือเขาทำให้คนจ้างพอใจ เพื่อที่จะให้นักลงทุนรู้สึกดีเมื่อได้อ่าน

แฮปปี้วันฮอลโลวีน
จากข่าวนี้ http://www.thairath.co.th/content/460318
บัญชีที่แย่คือเขาทำให้คนจ้างพอใจ เพื่อที่จะให้นักลงทุนรู้สึกดีเมื่อได้อ่าน

บัญชีที่แย่นี้มีเยอะ
ยุโรปเคยเกิดเรื่องนี้บ่อยๆ อเมริกาก็ใช่ย่อย
ส่วนเมืองไทยนี้รู้อยู่แก่ใจ

ต้องเกิดวิกฤติจริงๆบ้านเราถึงสอบสวน แต่ตัวเป้งมักหนีรอดหมด ถ้าโดนคดีก็หนีออกนอกประเทศ ตอนปี 40 มีให้เห็นมาแล้วครับ

ดังนั้นใช้ข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจให้หลากหลาย ไม่ใช่จมอยูแต่กับบัญชีงบอย่างเดียว

เดี๋ยวผีจะหลอกเอา

กราฟแรกเป็นเซทระยะสั้น แนวรับ แนวต้านรอง แนวต้านหลักที่ต้องระวัง

กราฟแรกเป็นเซทระยะสั้น แนวรับ แนวต้านรอง แนวต้านหลักที่ต้องระวัง เรียงกันตามลูกศรที่ชี้ตำแหน่ง fibo เลยครับ หลักต้านสำคัญ 1570

ส่วนกราฟที่ 2 คือเหมือนที่เคยโพสจุดกลับตัวสั้นรอบก่อนว่า เราควรให้สมมุติฐานว่าตรงนั้น เป็น a หรือ 1 ของขาลง และจุดวัดเงื่อนไขที่ดีก็มาถึงแล้ว คือที่ลูกศรสีแดงชี้นั้นเป็นจุดแรกครับ ถ้าไม่ผ่านก็ระวังกันหน่อย หรือ ถ้าผ่านแล้วไปทำ new hi ไม่ได้ก็ต้องระวังเช่นกัน

จุดระวัง 2 ไทม์เฟรมมันซ้อนกัน เราก็ควรระวังมากหน่อยนะครับ

อันนี้คือโพสก่อนหน้าที่ต่อเนื่องกันครับ
https://www.facebook.com/ThaiTraderPage/photos/a.205203229516556.43320.205203022849910/741310625905811/?type=1&theater



ฟองสบู่ทิวลิปเกิดยังไง วิกฤติครั้งนั้นอธิบายได้ดีมากๆในสารคดีเรื่องนี้ครับ

ฟองสบู่ทิวลิปเกิดยังไง วิกฤติครั้งนั้นอธิบายได้ดีมากๆในสารคดีเรื่องนี้ครับ

สารคดีแนะนำสำหรับคนนอนเล่นกลางวันแบบเดียวกันกับผม 5555

มีเวลาก็ดูจนจบครับ ถ้าไม่มีเวลาดูช่วงนาทีที่ 12 เป็นต้นไปถึงประมานนาทีที่ 20

เรื่อง "ฟองสบู่ทิวลิป" ลองดูนะครับน่าสนใจสำหรับนักเก็งกำไรทั้งหลาย

ยุโรปเจอสมบัติค้นพบโลกใหม่มีเงินมาก คนในอัมสเตอร์ดัม รวย เริ่มหาของฟุ่มเฟยมาเล่น สิ่งหนึ่งนั้นคือดอกทิวลิป มีการเก็งกำไรดอกทิวลิป มีการสร้างฟิวเจอร์เพื่อสิทธิในการเก็บเกี่ยวพืชผลเป็นครั้งแรกในโลก และสุดท้ายก็เช่นเคย ทุกอย่างเกิดซ้ำเดิมคือ

"เมื่อถึงจุดที่คนไม่กล้าไล่ราคาที่สูงกว่านั้นแล้วคนออกจากเกมส์ช้าก็รับเคราะห์ไปครับ"

สนุกครับลองดูกัน ไว้ว่างๆจะมาเล่าเพิ่มเติมให้ฟัง

ความอยาก และ ปัจจัยความจริง สองเรื่องนี้ต้องประเมินให้เป็น สำหรับนักเก็งกำไรในสินค้าอะไรก็ตาม ต้องรู้ว่ามันมีความสำพันธ์กันยังไง

จากข่าว
หนี้เน่าแบงก์พาณิชย์ทะลัก เศรษฐกิจวูบคนไทยหมดแรงผ่อนบ้าน-รถ

ความอยาก และ ปัจจัยความจริง สองเรื่องนี้ต้องประเมินให้เป็น สำหรับนักเก็งกำไรในสินค้าอะไรก็ตาม ต้องรู้ว่ามันมีความสำพันธ์กันยังไง

ครั้งก่อนปัจจัยมาจากอะไรอย่างอื่นซึ่งคล้ายๆกันกับครั้งนี้อยู่หลายๆด้าน(ปี 40 เก็งอสังหา รวมหัวกันปล่อยกู้ ยืมเงืนมาปล่อยทำยอดโดยไม่ดูปัจจัยจริงๆ สุดท้ายเมื่อได้ของกันครบแล้ว คนไม่ไล่ซื้ออสังหาต่อ พวกกู้มารับของบนยอดดอยก็เลยไม่มีเงินพอไปจ่ายหนี้ ค่าเงินบาทปิ๋ว วิกฤติต้มยำเกิด)

ครั้งนี้ปัจจัยก็มีเหมือนกัน aec นี้หล่ะตัวหลักกระตุ้นอสังหา ความหวังมันมักวิ่งแซงหน้าความจริงตลอด(อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์ของใครของมันที่จะประเมินว่า ความหวังมันวิ่งไปเกินปัจจัยจริงแล้วหรือยัง)

กิเลศมันมักวิ่งไปเวอร์เกินหน้าเกินตาปัจจัยจริงๆเป็นประจำนี่สิ
ทำอะไรต้องรู้ตัว ยังไงรอบนี้ลองมาจับตาดูกัน กิเลศจะวิ่งเกินปัจจัยอีกไหมครับ

เมื่อคนในเกมได้ของหมดแล้ว ความอยากความคาดหวังจะแสดงออกสวนทางกันกับปัจจัยจริง(Divergence) อันนี้แหละเรื่องสำคัญที่นักเก็งกำไรต้องรู้ ต้องคอยจับสัญญาน

เรื่องเดิมที่ค้างไว้เดี๋ยวมาต่อ เอาอันนี้มาลงก่อนเพราะว่ามันตรงและคล้ายกับช่วงวิกฤติช่วงที่ 2 ของตลาดหุ้นไทย ในโพสก่อนหน้าข้างล่างนั้นครับ

ทำไมบางคนกลัววิกฤติตลาดหุ้นมากๆ แล้วทำไมบางคนนั่งรอนอนรอสัญญานการมาของวิกฤติ

ทำไมบางคนกลัววิกฤติตลาดหุ้นมากๆ แล้วทำไมบางคนนั่งรอนอนรอสัญญานการมาของวิกฤติ มาอ่านกันตรงนี้เถอะ ผมจะเขียนเป็นช่วงๆ ไป

ตรงนี้ผมจะเชิญมาฟังเรื่องหุ้นย้อนหลัง โดยชวนมองมันผ่านกราฟเทคนิคคอลที่ผมถนัดนี้แหละครับ

ซึ่งผมจะชี้ไปที่วิกฤติแต่ละครั้งในตลาดหุ้นไทยเราว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วตั้งแต่สมัยนั้นๆ เทคนิคคอลสามารถใช้การได้ไหม รวมถึงเล่าเกร็ดเล็กๆต่างๆในช่วงวิกฤตินั้นๆด้วย

แล้วคุณจะตะลึงว่า ทุกวิกฤติมันมีต้นเหตุมาจากอันเดียวกันเลย และคงพอเดาได้ว่าในอนาคตมันก็จะเกิดวิกฤติซึ่งมีต้นเหตุมาจากสิ่งเดียวกันอีกแหละ กิเลศไม่เคยให้บทเรียนกลุ่มคน แต่ในส่วนของปัจเจกชน นั้นคุณจัดการมันได้ครับ

ผมแบ่งช่วงสำคัญๆของหุ้นเป็น 5 ช่วง และขอเริ่มพูดถึงช่วงที่ 1 ก่อนในโพสนี้

ช่วงที่ 1 นี้เริ่มเมื่อมีการก่อตั้งตลาดหุ้นไทยเรา ปี 2518 ไปจบเมื่อราวๆปี 2522 วิกฤตินี้เรารู้จักมันในชื่อ "วิกฤติราชาเงินทุน-วิกฤติราคาน้ำมัน"

ในช่วงนี้กลุ่มโอเปคได้ขึ้นราคาน้ำมัน 30% ประเทศที่ขุดน้ำมันได้ไม่พอใช้อย่างบ้านเราก็รับเคราะห์ตามระเบียบครับ เงินเฟ้อในประเทศพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว บัญชีขาดดุลก็พุ่งตามกัน ตอนนั้นต้องลดค่าเงินบาทลง 9 %

ซ้ำยังมาเจอเหตุการณ์บริษัทเงินทุน ราชาเงินทุนนี้แหละครับก่อปัญหาโดยการปล่อยกู้ให้บริษัทลูก โดยที่ไม่มีอะไรคค้ำประกันเลย

ร้ายกว่านั้นข้อมูลบางที่ยังบอกว่า บริษัทลูกพวกนี้ก็เอาเงินกู้นั้นๆวนมาซื้อหุ้นบริษัทแม่ ทำให้ราคาหุั้นเพิ่มจาก สองร้อยกว่าบาท เป็นสองพันกว่าบาท

การทำแบบนี้ทำให้ราคาหุ้นและผลประกอบการของราชาเงินทุน ขึ้นอยู่กับการปล่อยกูให้บริษัทลูกที่เอาเงินมาซื้อหุ้นของบริษัทแม่ เป็นวงจรธุรกิจที่โคตรอุบาทจริงๆ

ในการเก็งกำไรราคาแบบเต็มสตรีมแบบนี้ สุดท้ายแล้วมันจะมาถึงจุดที่ "ไม่มีคนกล้าเสนอซื้อในราคาที่สูงกว่านั้นอีกแล้ว" หรือที่เราเรียกอีกอย่างว่า "ฟองสบู่แตก" นั้นแหละครับ

พอถึงตรงนี้ ราชาเงินทุนไม่มีเงินสภาพคล่องแล้วครับ หุ้นตกลงมาเหลือสามร้อยกว่าบาท บริษัทลูกที่กู้เงินไปแล้วมาซื้อหุ้นของบริษัทแม่ก็ขาดทุนสิครับจะเอาเงินที่ไหนมาใช้คืน พวกเจ้าหนี้ของบริษัทแม่อีกทอดก็เริ่มวุ่นวาย

เก็บหนี้ไม่ได้ นั้นทำให้สุดท้ายรัฐต้องเข้ามาจัดการ วิกฤติรอบนี้ถ้าจำไม่ผิดจบด้วยมีคนติดคุกครับ

ได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยพอให้เห็นภาพวิกฤติครั้งนี้ ข้อมูลคร่าวๆเท่าที่หาได้จะประมานนี้ครับ ที่นี้เรามาดูในส่วนของเทคนิคคอลกันบ้าง

จากข้างบนที่ผมเขียนบอกว่าการเก็งกำไรที่อุบาทครั้งนี้ สุดท้ายแล้วมันจะมีราคาที่คนไม่ซื้อต่อ ซึ่งตรงจุดนี้เองคือหายนะที่ผู้บริหาร ราชาเงินทุนไม่เข้าใจ

ลองดูในกราฟที่ 2 ตรงนี้ถ้าใครที่ติดตามกันมานานท่านจะเห็นว่า มันเกิด Divergence ระดับสัปดาห์ นั้นมันมีความหมายว่า ราคาของตอนนี้ เมื่อเทียบกับยี่สิบสามสิบสัปดาห์ก่อน คนมันไม่ไล่ซื้อไล่ราคาอีกแล้ว ตรงนี้ผมย้ำเสมอ ว่ามันคือสัญญานที่ซีเรียสเลยนะ ระดับสัปดาห์เตือนมานี้ต้องโคตรระวังแล้ว (หุ้นไทยตอนนี้ก็มีแนวโน้มเช่นเดียวกัน)

หมายถึงว่ายิ่งราคาเพิ่มสูงขึ้น คนยิ่งขายสวนออกมา พฤติกรรมของราคา ต่อค่าเฉลี่ย ต่อ macd นี้ผมเขียนแบบเห็นภาพชัดๆในบล๊อกแล้วลองไปหาอ่านเพิ่มเอาสำหรับคนที่ยังงงว่าตรงนี้มันสำคัญยังไงนครับ

ลองข้ามไปดูในส่วนของ Elliott wave ท่านก็จะเห็นว่า เวฟ 5 ไปจบที่ 361.8% ของขนาดเวฟ 1 พอดี ซ้ำร้ายกว่านั้น มันดันตรงกับข้อสังเกตุที่มักจะเกิดขึ้นในทฤษฏี Elliott wave ซะด้วย คือ เวฟ 3 จบยาวๆ และเวฟ 1 กับ 5 ขนาดเท่ากันเป๊ะ และในส่วนของการเทสแนวต้านของคลื่น มันก็ดันพอเหมาะพอเจาะ กับตัวเลข Fibo ที่เราใช้กันในตอนนี้อีก

ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้วเมืองไทยเรามีนักลงทุนที่ใช้เทคนิคคอล ที่คล่อง Elliott wave คล่อง การดูโมเมนตั้มมากแค่ไหน ซึ่งผมคิดเองว่ามันคงไม่เยอะ (ขนาดทุกวันนี้ก็ยังไม่เยอะ)

ตรงนี้มันเป็นหลักฐานหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า เทคนิคคอลมันไม่ได้เกิดได้เพราะมีคนใช้ แต่มันเกิดขึ้นได้เพราะพฤติกรรมกิเลสของมนุษย์

เมื่อเกือบๆ 40 ปีที่แล้วมีกลุ่มคนไทยยุคแรกๆในตลาดหุ้นได้แสดงร่องรอยและหลักฐานของ "พฤติกรรมกิเลศ" ในตลาดหุ้น ทิ้งไว้ให้เราได้ย้อนกลับไปศึกษาโดยผ่านความรู้เทคนิคคอล

ตรงนี้มันมีประโยชน์ที่เราควรใส่ใจ อาการแบบนี้มันออกมาทุกช่วงวิกฤติที่ผมจะพูดต่อไปในรอบหน้า มันเกิดทุกครั้ง แล้วเราจะมาไล่ดูด้วยกันว่าครั้งหน้านี้มันจะซ้ำรอยเดิมอีกไหมครับ

วันเกิดของผมเมื่อสามปีก่อนผมตั้งเป้าว่าจะสร้างเพจ และจะเขียนไปเรื่อยๆ เป็นเวลา10 ปี ถึงเวลานั้นพอดีผมจะเลิกงานอื่นๆ ทุกอย่าง แล้วมาพูดมาเขียนเรื่องหุ้นนี้แบบเต็มตัว ตอนนี้ผ่านไป 3 ปี ถ้าพูดถึงก็ยังห่างจากปลายทางมากๆ แต่ผลตอบรับดีมากซึ่งผมดีใจจริงๆ

มีการส่งข้อความหลังไมค์เข้ามาสอบถามแลกเปลี่ยนความรู้เรื่อยๆ ซึ่งก็ถือว่าผมไม่ได้เขียนและพูดอยู่ฝ่ายเดียว 555

พรุ่งนี้ครบรอบวันเกิดปีที่ 33 ของตัวผมเองและ เป็นปีที่ 3 ของแรงจูงใจที่ทำทำให้เกิดเพจนี้ ตัวผมคงได้ไปทำบุญและขอปันบุญปันความรู้ให้ทุกท่านต่อๆไปครับ

ติดตามวิกฤติช่วงที่ 2 ในโอกาสต่อไปครับ



เซทระยะสั้น มันเริ่มได้ลุ้นกลับตัวสั้น ตรง 261.8% 17 ตุลาคม 2014

เซทระยะสั้น มันเริ่มได้ลุ้นกลับตัวสั้น ตรง 261.8% นั้น มันได้ลุ้นสัญญานกลับตัวเริ่มออกมา และเมื่อนับเวฟก็พอจะอยู่ในโซนเวฟ 5 ของระยะสั้นนี้แล้ว

ทั้งนี้ถ้าตรงนี้กลับตัวระยะสั้นได้จริง เราควรตีสมมุติฐานให้มันเป็นเวฟ a แล้วไประวังที่เวฟ b อีกที ถ้าเป็นแนวนี้เดี๋ยวจะมาอัพเดตกราฟวันหน้าครับ


ทำไมเราต้องมีระบบ แล้วระบบจริงๆมันคืออะไร แล้วมันสำคัญยังไง

เรื่องย่อเกริ่มนำของ "ระบบ"

ทำไมเราต้องมีระบบ แล้วระบบจริงๆมันคืออะไร แล้วมันสำคัญยังไง ผมขอเกริ่นสั้นๆก่อนแล้วจะมาเขียนละเอียดอีกรอบ

การจัดการความเสี่ยงคือการวางเงื่อนไข

เงื่อนไขคือการวางทางเลือกถึง "สิ่งที่จะต้องทำ" เพื่อรับมือกับผลที่เกิดขึ้นจริงในความเป็นไปได้ด้านต่างๆ

"สิ่งที่จะต้องทำ" นี้จะถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ จุดประสงค์ก็เพื่อให้ผลกระทบจากข้อผิดพลาดที่มาจากความเสี่ยงจำกัดและน้อยลงเรื่อยๆ นี่แหละคือการพัฒนาการจัดการความเสี่ยง

เมื่อเราพัฒนาชุดของเงื่อนไขจนสามารถใช้ชุดเงื่อนไขเดิมนั้นซ้ำๆ ตลอดไป นี้คือสิ่งที่เรียกว่า "ระบบ" ****

มนุษย์ซึ่งมีปัญญา พอสังเกตเห็นว่ามีอะไรต้องทำซ้ำๆแบบเดิมๆหรือคล้ายๆเดิมตลอด พวกเราจึงสร้าง "ระบบ" ขึ้นมาและนี้แหละคือเอกลักษณ์ที่แสดงถึงว่าเราคือมนุษย์

- การล่าสัตว์ในสมัยโบราณก็มีระบบ
- การเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่โบราณก็มีระบบ
- การผลิตสิ่งต่างๆก็มีระบบ
- ในสังคมก็มีระบบคือกฏหมาย

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจัดการชุดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นซ้ำๆเดิมทุกวันนั้นเอง

แน่นอนในการที่ต้องเจอชุดเหตุการณ์เดิมๆซ้ำๆจากตลาดหุ้น มันก็ต้องมีระบบเช่นกัน แล้วนั้นแหละคือสิ่งที่จะพูดถึงต่อไป

ระบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่เพอร์เฟ็คดังนั้นมันต้องมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ การหวังถึงระบบที่เป็นจอกศักดิ์สิทธิ์นี้ยากมาก ยากจนแทบจะเท่ากับเรื่องไร้สาระไม่น่าเสียเวลาหวังถึง

แต่ระบบที่จัดการให้ได้กำไร ให้อยู่ได้ในตลาดนั้นมีจริงแน่ๆ ทั้งนี้จะได้กำไรมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ

- ความเข้าใจของผู้สร้างระบบ
- ประสบการณ์ของผู้สร้างระบบ
- การพัฒนาระบบอุดรูรั่วข้อด้อยของระบบอยู่เสมอ

การมีระบบของตัวเอง สไตล์เข้ากับพื้นฐานชีวิตตัวเอง นั้นคือเรื่องวิเศษยอดเยี่ยม เพราะว่าเราเข้าใจ หลับตาคลำ หรือ ทำสิ่งใดในระบบนี้ เราก็รู้หมดว่ามันคืออะไร เราทำทำไม

นั้นคือเหตุผลและสิ่งที่ผมพูดเสมอว่า คุณต้องมีระบบของคุณเอง มันซื้อขายกันยากนะระบบนี้ เพราะปัจจัยสำคัญในระบบคือใจของคุณเอง ดังนั้นถึงซื้อระบบจากที่เดียวกัน ผลลัพธ์ของแต่ละคนก็มักไม่เหมือนกัน

มันต้องระบบที่เข้ากับตัวคุณเองได้เท่านั้นครับ แล้วใครละจะสร้างระบบที่เข้ากับตัวคุณเองได้

ก็ตัวคุณไงครับ
พร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วไว้บทความหน้ามาเข้าถึง "การสร้างระบบเทรดในตลาดหุ้น" กันแบบเน้นๆเลย

แหม...ช่างปิดท้ายได้เหมือนบริษัทขายตรงจริงๆ 5555

อันนี้กราฟเก่าตั้งแต่เมื่อวาน ตีไว้แต่ไม่ทันโพส สองกราฟแรกเป็นกราฟเซท

อันนี้กราฟเก่าตั้งแต่เมื่อวาน ตีไว้แต่ไม่ทันโพส สองกราฟแรกเป็นกราฟเซท

กราฟแรกคือระยะกลาง ราคาเกาะเทสเทรนด์ไลน์เส้นล่าง อันนี้เหมือนเดิมกับกราฟก่อนหน้านั้นๆคือ ตรงนี้เป็นแนวรับหลักของรอบนี้ ถ้าหลุดตรงนี้ไม่ดีนะ แต่ถ้าไม่หลุดได้กลับไปเทสที่ไฮเดิม ระยะสั้นก่อนหน้า(1600) หรือ แม้แต่ไปที่ ไฮเดิมระยะกลาง 1648 นั้นได้ แต่ต้องระวัง แรงทั้งระยะกลางและยาวมันไม่ได้เยอะ โมเมนตั้มอ่อนๆ ถ้าจะไปไกลกว่านั้นจริงต้องเทสหาความมั่นใจอีกสักพักใหญ่

กราฟที่สองเป็นกราฟระยะสั้น ราคาเริ่มมีสัญญานกลับตัว และกำลังก่อตัววางเงื่อนไขเพื่อรีบาวด์ เงื่อนไขเพื่อรีบาวด์นี้จะมีโอกาสเกิดสูงแค่ไหนนั้น ราคาควรไม่หลุด 61.8% ลงไปหรือถ้าหลุดลงไปถึงโลว์เดิมหรือนิวโลว์ แล้วไม่มีโวลุ่มและเกิด สัญญานกลับตัว(divergence) ต่ออีกยิ่งได้ลุ้นสำหรับคนเน้นเล่นเร็ว

กราฟสุดท้ายเป็นกราฟค่าเงินบาท ก็ต่อจากกราฟค่าเงินที่เคยเอาลงหลายวันก่อน ไปแตะแนวต้านเส้นเทรนด์ไลน์บนแล้วย่อก่อน แต่ยังอยู่ในเทรนด์ย่อยของการอ่อนค่า (ยังไม่หลุดเทรนด์ไลน์เส้นประสีขาวนั้นก็มีโอกาสกลับขึ้นไปเทสแนวต้านเดิมอีกได้สูง) ถ้าย่อก่อนนี้ก็ถือว่าเป็นสัญญานที่ดีกับหุ้นบ้าง คือ ค่าเงินบาทยังไม่ได้ให้ภาพอ่อนที่แน่ชัด แต่ถ้าอ่อนเบรกแนวต้านไปได้ อันนี้ก็เกรงว่า หุ้นจะตกหลุดแนวรับ ในกราฟแรกนั้นเหมือนกัน

ข้อสำคัญสำหรับการเรียนรู้คือ

1 ในการสังเกตุสัญญานการกลับตัว ให้ดูหลายไทม์เฟรม ถ้าไทม์เฟรมใหญ่มีสัญญานการกลับตัว(divergence) ค้ำคออยู่ อย่าเพิ่งมั่นใจจนลงเงินหนักเมื่อเห็นสัญญานการกลับตัวในไทม์เฟรมเล็ก ต้องระวังและถ้าจะลงเพิ่มควรลงแบบเล่นเร็ว

2 ค่าเงินบาทกับหุ้น มันมักสัมพันธ์กัน หุ้นเทสแนวรับค่าเงินบาทมักไปเทสแนวต้าน หุ้นเทสแนวต้าน ค่าเงินบาทมักไปเทสแนวรับ อันนี้เป็นการดูกระแสเงินในตลาด ควรอย่างยิ่งที่จะต้องหมั่นสังเกตติดตามครับ

3 จากข้อ 1-2 ถ้าสองข้อนี้มันขัดแย้งกัน ในช่วงที่อยู่ปลายเทรนด์ อันนี้มักแสดงถึงความ convergence มันมีพลังงานการขายหรือซื้อซ่อนอยู่ คือหุ้นมักยังไปต่อ เช่น ลงก็ยังลงต่อ ขึ่้นก็ยังขึ้นต่อ อันนี้ต้องคิดตาม มันเป็น "ความผกผันของความผกผัน" ผลลัพธ์คือไม่ผกผัน อ่านอาจจะงง แต่ถ้าเข้าใจสองข้อก่อนหน้า จะจับทางได้ว่า ถ้าหุ้นมันไม่ผ่านต้าน แต่เงินบาทดันแข็งทะลุแนวรับ อันนี้ หุ้นมันมีโอกาสลงเพื่อขึ้นไปต่อ ไว้จะมาขยายความอีกทีครับเรื่องความสัมพันธ์ของค่าเงินกับหุ้นเคยเขียนไว้บ้างในบล๊อกหาอ่านก่อนได้

ช่วงนี้งานเยอะนิดหนึ่งนะครับ ทดลองทำธุรกิจไรใหม่ๆเพิ่มเลยมาตอบน้อย หรือ ตอบช้า แต่หุ้นมันอยู่ในสายเลือดยังไงก็เข้ามาตอบ มาโพสแน่นอนครับ

ติดเรื่อง คอนเซปของการสร้างระบบแบบเห็นภาพจริงๆ ไว้ก่อน มีไอเดียที่จะเขียนแล้ว แต่เวลายังไม่ให้ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ รออ่านอีกนิด




องค์ประกอบสำคัญ ของการเป็นเงินสกุลต่างๆคืออะไร

บทความเก่าเขียนน่าจะปีก่อนครับ เรื่อง bitcoin ที่พยายามจะชี้ให้เห็นว่า องค์ประกอบสำคัญ ของการเป็นเงินสกุลต่างๆคืออะไร

สิ่งค้ำประกันล้วนๆ ที่ทำให้เงินยังเป็นเงินอยู่ได้ครับ เศรษฐกิจ ธุรกิจ ทรัพยากร อาวุธ พวกนี้คือสิ่งค้ำประกัน ให้คนกล้าถือเงินสกุลนั้นๆอยู่

ผลิตภันฑ์อื่นๆ ที่ไม่มีสิ่งค้ำประกันทำนองนี้ ไม่ง่ายที่คนจะกล้าถือ ไม่ว่าผลิตภันฑ์นั้นๆ จะมีคอนเซปที่ดีมากๆแค่ไหนก็ตาม ความหมายของการมีเงิน คือมีคนรับประกันว่าเราจะเอาไปแลกข้าวปลาอาหารปัจจัยในการดำรงชีวิตได้

โลกนี้มันเป็นสังคมแห่งการแบ่งชั้นและมีการได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่โลกที่มีสังคมสุดยอดในจินตนาการแบบยูโทเปีย เพราะงั้นคนเราจึงยังไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งดีเลิศอะไรขนาดนั้นเพื่อเอาเปรียบกันหรอกครับ

ดังนั้น การเข้าไปหาโอกาสในบิทคอยน์ นี้ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดอะไร แต่ควรวางตำแหน่งมันให้ถูกว่าเราเข้าไปเพื่ออะไร เก็งกำไรก็เก็งกำไร อย่าไปยึดติดโยงไปเรื่องอื่นมากมาย

การที่มันจะเทียบชั้นสกุลเงินต่างๆ มันไม่ง่าย และถึงจะทำได้ ก็ยังไม่ใช่ช่วงใกล้ๆนี่แน่ๆ
อัพเดทเซท กันเลย จากกราฟที่ให้เมื่อวันศุกร์ ราคาอยู่แนวต้านพอดี และเลือกออกทางไม่ผ่านแนวต้าน ทำให้วันนี้ได้กรอบเทรนด์ไลน์ขาลงอีกกรอบสีขาวตามรูป

ราคาตอนนี้อยู่ที่ 161.8% ของเวฟ 1 พอดี(ตรงนี้สำคัญยังไงไปหาอ่านเพิ่มเรื่องการใช้ fibo เพื่อนับเวฟ ในบล๊อกเก่าๆได้ครับ) ใช้วิชาเก่าที่เราพูดกันมาตลอดว่า ทุกครั้งที่ราคาลงไปที่โลว์เดิม หรือ นิวโลว์ ดูแรงครับ จับตาดู macd และโวลุ่มสิ

ตรงนี้เริ่มได้ลุ้นของเวฟ ชุดนี้ว่าใกล้จบหรือยัง โดยเราวางเงือนไขว่า ถ้าลงต่อและโวลุ่มยังไม่เพิ่มออีกก็ใกล้กลับตัวสั้น

แต่ถ้ากลับตัวสั้นรอบนี้เสร็จแล้ว ให้วางสมมุติฐานว่า 5 เวฟ ที่จบไปนั้นเป็นเวฟ a แล้วค่อยไปหาแนวต้านของเวฟ b อีกที ตรงนั้น เดี๋ยวถ้าไปถึงจะมาอัพเดตกราฟอีกครั้ง

ทั้งหมดทั้งมวล อยากให้ลองศึกษาการนับเวฟ ดูแรง และสรุปสิ่งที่ได้มาเป็นเงื่อนไขเป็นครับ

ประเด็นฮอทตอนนี้ มีหุ้นตัวหนึ่ง ใช้เวลา 2 เดือน ขึ้นไปสิบกว่าเด้ง

ประเด็นฮอทตอนนี้ มีหุ้นตัวหนึ่ง ใช้เวลา 2 เดือน ขึ้นไปสิบกว่าเด้ง
โดยที่ทางพื้นฐานก็ยังงงๆ ว่ามีอะไรดีใหม่ๆหรือเปล่า ในทางเทคนิคก็มึนๆ ว่าก่อนขึ้นไม่เห็นมีไรบอกสักเท่าไหร่

อาการแบบนี้ขอคำแนะนำหลังไมค์มา ผมก็แนะนำให้เอาเวลาไปตามทะเบียนรถนายกตู่จะมีโอกาสรวยกว่าครับ

เมื่อมันไม่มีเหตุผลให้หาวิธีการจัดการ แล้ว มันก็จึงไม่ต่างอะไรกับการแทงหวย ซึ่งหวยดีกว่าเพราะว่า เจ้ามือมันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกอะไร ถือว่าแฟร์ๆครับ

ถ้าไม่ใช่ลูกชายคนสุดท้องของเจ้ามือแล้วละก็ อย่าไปเล่นหุ้นปั่นครับ

ทุกๆก่อนและหลังตลาดอยู่ในสถานะ ต้องจับตา อาจจะได้ลงกราฟถี่หน่อย ช่วงระหว่างเทรนด์ อาจจะเงียบนิดนะครับ

ทุกๆก่อนและหลังตลาดอยู่ในสถานะ ต้องจับตา อาจจะได้ลงกราฟถี่หน่อย ช่วงระหว่างเทรนด์ อาจจะเงียบนิดนะครับ

วันนี้มาเริ่มที่ ค่าเงินบาทไปเลย เมือเดือน jun ตลาดได้สร้างจุดที่ทำให้เกิดกรอบเทรนด์ของขาลงใหม่ และตอนนี้ ค่าเงินบาทก็อ่อนไปเทส เทรนด์ไลน์ใหม่นี้แล้วครับ

แน่นอนอย่างที่เคยบอกหลายๆครั้ง ค่าเงินบาทอ่อน ก็แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของเงินทุนต่างชาติที่จะเข้ามาด้วย(ซึ่งในระยะกลางๆหน่อย มันก็ไม่ได้เข้ามาใหม่พักใหญ่ละ)

แต่ ณ จุดเทสแนวต้านนี้ ในระยะสั้นโมเมนตั้มเริ่มอ่อนลง แสดงให้เห็นว่า ตรงนี้คือจุดสำคัญ ที่คนชั่งใจกันอยู่ว่าจะเบรกหรือย่อลงอีกครั้ง

ถ้าเบรกขึ้นจะทำให้ ความรู้สึกของตลาดหุ้นแย่ลง แต่ถ้าย่อ ก็ต่อลมหายใจตลาดได้ นิดหน่อย ช่องให้ย่อมันมีไม่เยอะครับ

ต่อไปมาดูที่กราฟเซท ตอนนี้ราคายังไม่หลุดแนวรับของกราฟระยะสั้นอันเดิมที่โพสเมื่อวานข้างล่างนะครับ ยังใช้ตัวนั้นได้อยู่

แต่ผมเอากราฟวันระดับกลางมาลงเพิ่มเพื่อให้ดูเงื่อนไขระยะกลางกันหน่อย

สิ่งที่อยากให้ดูอันแรกคือ ช่วงของการเกิด divergence ที่ macd ตรงที่ผมเขียนเลข 1,2 ไว้ ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ราคาเกิด divergence และน่าจะลงมาเทสเส้นเทรนด์ไลน์เส้นล่างนี้

ถ้าหลุด คงต้องมีแผนเซฟตัวเองหน่อยแล้วละแบบซีเรียสสำหรับคนเล่นสั้น กลาง

ถ้าเด้ง ก็เหมือนเดิม ไปเทสแรงที่ 1600 อีกที ถ้าผ่านก็ไปไฮเดิม

ถ้าไปไฮเดิมจริงๆ ก็ยิ่งต้องซีเรียสต้องจับตาตลอดครับ ทั้งคนเล่น สั้น เล่น กลาง และพวกที่บอกว่าเล่นยาว แต่ไม่ใช่แบบสามปีห้าปี
-------------------
#อันนี้ต้องคิดตามนิดหนึ่งมันมีประโยชน์
ส่วนประกอบสำคัญของระบบอย่างหนึ่งคือ "ช่วงราคาลง" ครับ ผมใช้คำว่า "ช่วงราคาลง" เพราะมันให้ความรู้สึกของโอกาส มากกว่าคำว่า "หุ้นตก" "หุ้นติดลบ" อะไรแบบนั้น (เพราะคำแบบนั้นรู้สึกขาดทุน 555)

ประเด็นคือ ช่วงราคาลง มันคือโอกาส เราก็ทำเหมือนเดิมกับ ช่วงราคาขึ่นนั้นแหละ ไปจับตาดูแรง หาจุดกลับตัว ถ้าคุณทำระบบแล้ว ช่วงนี้คือช่วงที่ต้องยิ้ม เช่นเดียวกับช่วงขาขึ้นละครับ ระบบมันจะทำให้เราวิ่งเป็นวงจรไปได้ตลอด

เมื่อถึงจุดกลับตัวของขาขึ้นมันก็เตือนให้เราวางเงื่อนไข พอหลุดเงื่อนไขก็จัดการ และรอเช็คจุดกลับตัวของขาลงจากระบบต่อ ทำวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าระบบ

คือระบบแบบคร่าวๆมันเริ่มมาจากเมื่อมนุษย์ต้องทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือชุดของสิ่งหนึ่งสิ่งใด แบบซ้ำๆ ตลอดไป เมื่อจับทางได้แล้ว มนุษย์จึงได้วิเคราะห์และสร้างระบบ เพื่อจัดการกับสิ่งนั้นๆ ครับเช่น กฏหมาย ระบบผลิตปลากระป๋อง ระบบทะเบียนราษฏร์ ระบบจัดการราคาหุ้น เป็นต้น

ผมว่าจะเขียนความหมายของระบบมาหลายวันละ ตัวนี้สำคัญผมคิดว่าคนจำนวนมากยังงงๆ กับคำว่าระบบอยู่มาก แต่ยังไม่ได้วางมือจากงานส่วนตัวสักที ไว้เดี๋ยวจะมาว่าให้ละเอียดอีกที ว่า ระบบระเบียบของสังคมเป็นยังไง ระบบผลิตปลากระป๋อง มีลักษณะพิเศษยังไง แล้วไอ้ระบบหุ้นที่บอกให้สร้าง ๆ เนี้ย ที่จริงมันคือยังไง มันต้องมีลักษณะอะไรบ้าง แล้วมันสำคัญอย่างนั้นเชียวหรือ

เบรกระบบ ก็เหมือน คนชอบทำผิดกฏหมาย ซึ่งมันทำให้สังคมไม่เจริญ ทำตามกฏหมาย สังคมก็จะสงบสุข ทำตามระบบตัวเราก็เจริญครับผม




อัพเดตกราฟกันหน่อย เอาระยะสั้นไปก่อน

วันที่หลุดหรือเบรก เราก็มาอัพเดตกราฟกันหน่อย เอาระยะสั้นไปก่อน แนวรับ 1573 1557 และเส้นเทรนด์ไลน์สีขาวตามลำดับ ตอนนี้ถือว่าพัก ลงมาเทสกรอบล่างก่อน ตามลำดับ

ไม่ผ่านต้าน 1600 ก็ลงมาทดสอบ แนวรับ แทน ถ้าแนวรับเอาอยู่ก็กลับขึ้นไปทดสอบอีกทีที่1600

ทั้งนี้สังเกตได้จากโวลุ่ม ที่แคบลงๆ เรื่อยๆ ถ้าลงไปเทสแนวรับรอบนี้แล้วหลุดแบบโวลุ่มพุ่ง ก็เตรียมเซฟตัวครับ แต่ถ้าเด้งแบบโวลุ่มพุ่งเบรกออกมาก็กลับไปเทส 1600 อีกที

วงจรเงื่อนไขระยะสั้นของเซท ตอนนี้ก็มีแค่นี้แหละครับ

ส่วนระยะที่ยาวกว่านี้ ก็อย่างที่เคยบอก ต้องซีเรียสทุกแนวต้าน จากนี้ไปถึงไฮเดิมเป็นอย่างน้อยครับ


เขาคือไอดอลของใครหลายๆคน เซอร์ ริชาร์ด แบรนด์สัน

เขาคือไอดอลของใครหลายๆคน เซอร์ ริชาร์ด แบรนด์สัน มีอะไรแปลกๆออกมาให้เราได้เห็นตลอดครับ

เทรนด์ของโลกนี้ แบรนด์รุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ที่สินค้าหรือบริษัท แบรนด์หลายๆสินค้า ย้ายไปอยู่ที่ปัจเจกบุคคลครับ

เรารู้จัก สตีฟ จ๊อบ มากกว่ากว่า apple ไหม?
เรารู้จัก ริชาร์ด แบรนสัน มากกว่า virgin หรือเปล่า ?
เรารู้จัก ตัน มากกว่าชาแบบต่างๆของเขาไหม ?

ถ้าตอบใช่ทั้งสามข้อ อันนี้แหละคือผลของการปฏิวัติดาต้า การสื่อสารด้านต่างๆ ทำให้ความเป็นปัจเจกบุคคล ยิ่งใหญ่กว่ากลุ่มคนแล้วครับ

นักสร้างและบริหารแบรนด์ ควรรู้

เวลาเราไปดูการทำนายอนาคตราคาหุ้น ขอให้เราพึงรู้ไว้ 2 ข้อนะครับ

เวลาเราไปดูการทำนายอนาคตราคาหุ้น(ผมใช้คำนี้แหละสำหรับคนที่ฟันธงอนาคต) แล้วเขาบอกว่าหุ้นจะไปถึง เท่านั้นเท่านี้ สองพันสามพันจุด หรือ ลบไปห้าร้อยหกร้อย อะไรแบบนั้น ขอให้เราพึงรู้ไว้ 2 ข้อนะครับ

1. มันคือการคาดการณ์ระยะยาวจากความรู้ด้านต่างๆ ซึ่งอย่างที่บอกว่ามันคือการคาดการณ์ "เป้าหมาย" มันยังไม่ใช่ความจริง เพราะฉะนั้น มันอาจจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ได้ ต้องแยกความหมายของคำว่า เป้าหมาย กับความจริง ให้ออก เราจัดการหรือเรากระทำกับ เป้าหมาย และ ความจริง แตกต่างกันครับ

2. ถ้ามันเกิดขึ้นจริงตามตำรา ในระหว่างทางที่จะไปถึง สองสามพันจุดแบบที่เขาว่า มันต้องมีย่อมีปรับฐาน มีทดสอบความมั่นใจอีกเพียบ ไอ้ตรงนี้แหละ ถ้าไปหลงกับเป้าหมายแล้วไม่ดูปัจจุบันเป็นตัวหลักของระบบ บางทีเราเอาจจะอยู่ไม่ถึงวันที่ สองสามพันจุดนั้นเกิดขึ้นก็ได้

จากทั้งสองข้อที่ต้องการจะบอกคือ เราต้อง ! อยู่กับข้อมูลปัจจุบันเป็นหลัก การคาดหวังกับราคาอนาคต(แบบมีหลักการ) คือเป้าหมาย นั้นถูกต้องแล้ว แต่อย่าให้มันควบคุมระบบ ความบรรลัยของระบบเทรด เกิดเมื่อ จิตของคนดันไม่เชื่อ สัญญานปัจจุบันของระบบนี้แหละ

ตั้งระบบเทรดหลักเดือน พอสัญญานเตือนว่าออกได้แล้ว จิตดันไปดึงเอา "สัญญา" จากเซียนว่ามันจะไปถึงเท่านั้นเท่านี้ สุดท้ายแสดงออกมาเป็น สังขาร ด้วยการดื้อระบบ ผลกรรม ที่ตามมาคือ นอนก่ายหน้าผาก คำพูดว่า "รู้งี้" ก็เกิดตามมา

คนที่ศึกษาการใช้เทคนิคคอลหลายๆคนก่อนหุ้นลง หรือ ขึ้น ไม่ใช่ไม่เห็นนะ เจอสัญญานก็รู้ก็จับตาเตรียม แต่ตกม้าตายเพราะไม่ยอมเชื่อระบบ ไปเชื่อ เสียงกระซิบจากเซียนแทน

การไม่เข้าใจว่า เป้าหมาย กับ ความจริง มันมีอะไรต่างกันคือสิ่งที่ทำให้คนเรา ที่ได้รับข้อมูลเดียวกัน แต่ทำผลงานได้ต่างกันครับ

คนที่เอาเป้าหมายไปปนกับความจริงจนแยกไม่ออกก็เตรียมปวดหัวได้

สิ่งหนึ่งที่ผมหนักแน่นและบอกตลอด คือ สร้างระบบ และให้ระบทำงานของมันไป อย่าไปแทรกแซงด้วยอารมณ์ หรือจิต ของเรา

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าราคาหุ้นจะไปที่ไหน ประเด็นอยู่ที่ว่า เมื่อหุ้นขึ้นคุณอยู่สภาพไหน แล้ว ตอนมันลงละคุณอยู๋สภาพไหน "ระบบทำให้เราอยู่ถูกที่"


รีวิวคำนำหนังสือ หุ้น

(หลังจากอ่านจบผมไม่เห็นด้วยกับข้อมูลในหนังสือนี้เยอะอยู่ แต่โดยรวมถือว่าโอเคครับ ตรงนี้เขียนทีหลังจากบทความนี้นะ)

รีวิวคำนำหนังสือ
วันนี้ผมไปเดินเล่นร้านหนังสือ ได้มีโอกาสหยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่านคำนำ
ก็ประทับใจกับการจั่วหัวว่า
"เรื่องของคนที่จนด้วยหุ้น"
บอกตรงๆผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่หลุดขำในร้านเลยครับ 5555
ช่างจิกกัดคู่แข่่งเจ้าอื่นดีแท้
หลังจากอ่านเนื้อหาในคำนำที่ผู้เขียนพูดถึงเรื่องราวทัศนคติของตัวเองต่อวิกฤติต้มยำกุ้ง ก็รู้สึกสนใจเพราะผมก็คิดคล้ายๆกัน คือผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญมันมีวงจร มีคลื่น มีลักษณะธรรมชาติของจิตมนุษย์ในเหตุการณ์นี้ หรือเหตุการณ์อื่นๆก่อนหน้าด้วย รวมถึงหนังสือยังดูขบถนิดๆจากหนังสือกระแสหลักเรื่องหุ้นเล่มอื่นๆ

เมื่อเปิดดูสารบาญ ก็โอเคนะเรื่องที่เราสนใจ แต่ไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะลึกมาก ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกดีต่อหนังสือเล่มนี้แล้วไม่น้อย

เปิดไปหน้าท้ายๆเพื่อดูประวัติผู้เขียนซึ่ง เขาเป็นใครไม่รู้แต่อายุไม่น่าจะน้อย และน่าจะผ่านอะไรมาเยอะ มีคุณสมบัติหลายอย่างที่น่าจะเก่งลอจิค (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวผมไม่ชอบหนังสือที่ตรรกะวิบัติ)

เท่านี้ก็หยิบไปเค้าเตอร์ได้แบบสบายใจ และไม่ลืมที่จะหยิบมาแนะนำเพื่อนๆในวันหยุดแบบนี้ด้วยครับ

ลองไปหามาอ่านด้วยกันว่าเนื้อในจะดีเยี่ยมด้วยไหม ราคาถูกกว่าเป็ดตัวนึ่งครับสบายๆ

ไว้อ่านจบแล้วคงมาพูดถึงอีกทีหนังสือไทยเรื่องเทคนิคที่เด็ดๆยังไม่เจอมาก่อน มาดูว่าเล่มนี้จะทำไดไหม

ปล ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียไรกะเขา แต่ถ้าจะแบ่งค่าโฆษณาให้ก็เอา 5555


ตอนนี้คิดว่าต้องระวังมากหน่อยแล้วละครับ สำหรับตลาดหุ้นรวมๆ มันชัดๆมาพักใหญ่ว่า 15 กันยายน 2014

ตอนนี้คิดว่าต้องระวังมากหน่อยแล้วละครับ สำหรับตลาดหุ้นรวมๆ มันชัดๆมาพักใหญ่ว่า

ภาพกว้างๆยอด 1650 รอบก่อนมีแรงเยอะกว่าตอนนี้มากๆ
ภาพกลางๆ ตอนนี้แรงก็ตกลงเรื่อยๆ
ภาพเล็กๆ กำลังลุ้นว่า macd ลงใกล้ 0 จะดันทุรังเด้งขึ้นมาเทสแนวต้านอีก หรือว่า จะดำน้ำลงไปเลย

ถ้าจะแรงไปกว่านั้นได้คงต้องมีปัจจัยดีๆใหม่จริงๆ ซึ่งก็ยังมองไม่เห็นในตอนนี้ แล้วถ้ามองไม่เห็นในตอนนี้ ก็คงจะไม่คาดหวังกับมัน

ในหุ้นรายตัว ตัวหลักๆเยอะมากเหมือนกันที่คนไล่ซื้อน้อยลงมาก bearish divergence

แต่ตัวที่พอมีสัญญานให้สลับเล่นเร็วได้ก็พอมี ลองเอาวิชาที่เราคุยๆกันมาสองปีกว่านี้ไปลองจับตาดูกันครับ

แต่ซีเรียส ตรงที่ระวังตลาดรวมนิดนึ่ง ถ้าดันทุรังให้ไปอีกสัก 70 จุดที่ hi เดิมได้ มันจะยิ่งง่อนแง่น จินตนาการไม่ออกว่าถ้าราคาไปถึงตรงนั้นแล้วถ้าเรายังมีของอยู่ เราจะเอาไปขายให้ใคร !

การตื่นตัวในเรื่องของการลงทุน ชนชั้นกลาง

ในช่วงสักสี่ ห้าปีที่ผ่านมา สังคมไทยเราโดยเฉพาะชนชั้นกลาง มีปรากฏการณ์การตื่นตัวในเรื่องของการลงทุนนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะทอง หุ้น กองทุนต่างๆ

ตรงนี้มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่คนตื่นตัวกัน ผมมักบอกเพื่อนๆว่า วันนี้ถ้าเริ่มได้ก็ควรเริ่มศึกษาเลย ในอนาคต บัญชี ทอง หุ้น กองทุน พวกนี้จะสำคัญพอๆกับการที่ตอนนี้ทุกคนต้องมีบัญชีธนาคารนั้นแหละครับ

ทุกคน(ที่มีเงินเหลือเก็บ) จะต้องมีบัญชีการลงทุนพวกนี้ เหมือนที่ทุกคนที่ทำงานมีรายได้ต้องมีบัญชีธนาคารในตอนนี้แหละครับ

โอกาสที่ธนาคารจะจ่ายดอกแพงๆ เหมือนสมัยก่อนนี่คงไม่ง่ายอีกแล้ว และถึงจะสามารถกลับมาจ่ายดอกแพงแบบนั้นได้อีก ในคนที่แอคทีฟจะรู้ว่า เพราะธุรกิจที่กู้จากธนาคารไปมันดี ธนาคารเลยจ่ายได้ ดังนั้น ฉันไปลงทุนในธุรกิจพวกนั้นดีกว่าไหม แค่คลิกๆเองไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อนแล้ว

สังคมยุคที่ข้อมูล และบริการมันลอยมาถึงเราจากอากาศ แบบนี้ ให้คอยดูกัน ว่าอีกหน่อยจะเกิดแบบที่ว่านี้ขึ้นจริงไม่จริง

ข่าวล่าสุด ตอนนี้คนเล่นหุ้นตัวเลขเป็นล้านๆคนแล้ว หมายความว่า ถ้าคุณเดินผ่านคนร้อยคน จะมีอย่างน้อยคนหรือสองคนที่เล่นหุ้นอยู่ ยังไม่รวมพวกที่กำลังสนใจ แต่ยังไม่ได้เริ่มอีกเพียบ

การที่มีคนเริ่มสนใจกันมากมายขนาดนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ผมไม่ได้จะแช่งอะไร แต่เชื่อขนมกินได้อีกไม่นาน จะมีคนจำนวนมากเช่นกัน ที่ต้องกุมหัวออกจากตลาดไป

ตรงนี้ให้ระวังดีๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ประสบความสำเร็จมาจากธุรกิจไหนก็ตาม เมื่อมาเริ่มต้นตรงหุ้นนี้ ความสำเร็จก่อนหน้านั้นมันช่วยการันตีความสำเร็จในตลาดหุ้นให้คุณไม่ได้นะ

คนจำนวนมากพกเงินมาเต็มกระเป๋า และพร้อมกับอีโก้ จากความสำเร็จเดิมก่อนหน้าในธุรกิจอื่นของตัวเอง แล้วคิดว่าไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มแล้ว กระโดดเข้ามาเล่นปุ๊บ ขนาดเป็นช่วงขาขึ้นของตลาดก็เจ็งกลับไป ตรงนี้มีให้เห็นนะ

ดังนั้น เชื่อผม ถ้าไม่อยากกุมหัวออกจากตลาด อยากมีเรื่องเล่าดีๆจากตลาดหุ้นให้ลูกหลานฟังในวันหน้า

วันนี้ท่านต้องศึกษาให้มาก ต้องหมั่นอ่าน หมั่นคิด แล้วก็หมั่นฝึก ตรงหมั่นฝึกนี้สำคัญ สำหรับคนที่ชอบเทคนิคคอล หมั่นตีกราฟ หมั่นวางเงื่อนไข หมั่นทดสอบระบบจริง มันจะพัฒนา

อ่านเฉยๆ มันไม่พอครับต้องฝึกลงจริงด้วย

ต้องไปลงเรียนลงอบรมใหม? ตรงนี้ถ้ามีโอกาสก็ไปครับ เลือกดีๆ เอาที่เขาพอมีชื่อมีความน่าเชื่อถือ ราคาไม่แพงเวอร์มาก ไปแล้วไม่เดือดร้อนก็ไปเถอะ ไปดูเผื่อเขามีอะไรใหม่ๆที่เรายังไม่รู้ มีแต่ได้กับได้

ส่วนที่แพงมากๆก็คิดดีๆหน่อย ผมขอเตือนว่าความสำเร็จซื้อขายกันไม่ได้ ใครบอกว่ามาแล้วรวย มาแล้วรุ่ง ขายคอร์สแพงๆ อันนั้นให้คิดมากๆ

สูตรก๋วยเตี๋ยว ซื้อแฟรนด์ไชน์จากเจ้าเดียวกันมา บางคนเอาไปขายแล้วรวย บางคนเอาไปขายแล้วเจ็งก็ยังมีให้เห็น ความสำเร็จมันซับซ้อนเกินที่จะซื้อขายส่งต่อแลกเปลี่ยนกันด้วยเงิน

ความสำเร็จมันอยู่ที่ตัวคุณทำ ไอ้จะไปหวังว่าซื้อเอาเลยนี้ผมว่า หวยใต้ดิน ดูดีและน่าซื้อกว่า

ขอให้ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น อยู่ยงคงกระพันแล้วจะได้เล่าเรื่องตลาดหุ้นในด้านดีๆให้ลูกหลานฟังบ้าง

เพราะด้านร้ายๆของตลาดหุ้น ผมได้ยินมาจากคนรุ่นก่อนเยอะละ 555555
อันนี้ข่าวที่อ้างถึงในบทความ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1410507810


ทองคำ ยังเหมือนเดิม 12 กันยายน 2014

ทองคำ ยังเหมือนเดิม กรอบแรกที่เป็นสามเหลี่ยมนั้นโดนเบรกลง กรอบหลักต่อมา ที่วงไว้นั้นยังเหมือนเดิม

เราจะแห่ตกใจตามข่าวก็ได้แต่แนะนำให้ดูแรงโมเมนตั้มเอาครับ ลงไปที่โลว์เดิมอีกครั้งก็ยิ่งดีสิครับหุหุ

อันนี้โพสเดิมอีงตามนั้น
https://www.facebook.com/ThaiTraderPage/photos/pb.205203022849910.-2207520000.1410514964./693914067312134/?type=3&theater

ลงกราฟbec เป็นแนวทางศึกษา

กำลังจะลงกราฟbec เป็นแนวทางศึกษาคอมดับที่พิมพ์ไว้หายหมดเลย
ลองไปดูโมเมนตั้ม bec กันดูนะครับ หุ้นมีดราม่านี้น่าจับตานัก

ค่ำๆจะมาลงกราฟอีกทีครับ

มาต่อ BEC จากโพสก่อนนี้
คือช่วงนี้เขาก็มีข่าวมีอะไร ในส่วนของหุ้นเขาก็เป็นเทรนด์ลงมาพักใหญ่(เกือบปี) ผมเลยจัดมาให้ตั้งข้อสังเกตุ สามกราฟ เป็น ยาว กลาง สั้น แล้วกัน

ให้สังเกตจุดที่เกิด หรือ มีแนวโน้มว่าจะเกิด divergence ของทั้งสามกราฟ สามไทม์เฟรม สังเกตดูว่าช่วงไม่กี่วันมานี้เริ่มมีโวลุ่ม ในหุ้นที่เป็นแบบนี้แหละครับ น่าจับตา เจอแบบนี้วางเงื่อนไขกันได้เลย

เช่น
1 ถ้าลงทำนิวโลว์อีกแต่ macd ไม่ลงด้วยอีกอาจจะ ทำอะไรสักอย่าง
2 ถ้าราคาเบรกเส้นเทรนด์ไลน์แนวต้าน หรือ เบรก ema 200 แล้วอาจจะทำอะไรสักอย่าง

อันนี้เป็นตัวอย่างเงื่อนไขคร่าวๆ เมื่อเราเจอหุ้นที่ดูเหมือนจะมีสัญญาน ขั้นตอนต่อมาคือวางเงื่อนไข ประมานนี้

สมมุติว่าถ้าราคาเป็นไปตามเงื่อนไขแล้วเราได้เข้าแล้ว ทีนี้ ก็จะเป็นส่วนของการกันพลาด หรือ คัทลอส นั้นเอง ตรงนี้จะมีหลายวิธีแนวคิด และทั้งนี้ขึ้นกับสภาพ หุ้นแต่ละตัวนั้นด้วย

เราต้องลองตีลองศึกษา เราจะรู้นิสัยของหุ้นนั้นๆ เช่น ราคาหลุดจริงแต่ไม่มีโวลุ่ม หลุดเบาหวิว เพราะมีการกดเป็นอาการของหุ้น abc นะ ส่วนหุ้น xyz ตอนเกินสัญญานอาจจะมีกระชากก่อนค่อยวิ่ง อะไรแบบนั้น ตรงนี้คือส่วนของประสบการณ์ ฝึกนานๆ เราจะรู้ครับ

ตรงนี้เอามาให้ศึกษาหาดู วิธีการอ่านแรง ไม่ได้หมายถึงว่าหุ้นตัวนี้ขึ้นแน่ขึ้นชัวร์ ซื้อเลย อะไรแบบนั้นนะครับ ตรงนี้เอาไปลองสังเกตกันดูกับหลายๆตัว มันจะมีเงื่อนไขระหว่างทางอีกเยอะเลยไปลองหัดวางเงื่อนไขกันเอา

และสำหรับท่านที่ศึกษาอีเลียทเวฟอยู่แล้วท่านจะสังเกตุเห็นเวฟในหุ้นตัวนี้ ชัดและเปะเลยครับ




เมื่อเช้าหุ้นลบไปสิบกว่าจุด มีคำถามเลยทันที จบรอบหรือยังพี่?

เมื่อเช้าลบไปสิบกว่าจุด มีคำถามเลยทันที จบรอบหรือยังพี่?

เอากราฟง่ายๆอันนี้มาให้ดูก่อน และอธิบายให้ฟังว่า
เมื่อราคาเข้าสู่โซนที่เป็นแนวรับ หรือแนวต้าน ปกติก็ต้องมีอาการออกอยู่แล้วครับ

ถ้าเจอต้านไม่ผ่านก็ต้องย่อมาแนวรับ ลงมาถึงแนวรับไม่หลุดก็กลับไปเทสที่ต้านเดิม

ถ้าเบรกต้านได้ ก็ไปเทสต้านต่อไป ซึ่งถ้าไม่ผ่านก็ย่อกลับมาต้านก่อนหน้านั้นที่ตอนนี้กลายเป็นแนวรับไปแล้ว

อะไรประมานนี้ ตรงนี้คือวงจรการเทสการหาความมั่นใจของตลาด ที่เป็นที่มาบทหนึ่งของทฤษฏีดาวน์นี่แหละครับ

ส่วนกราฟผมอยากให้ฝึกดูกัน เพราะเราจะเห็นภาพใหญ่ไม่ไปหลงกับราคารายวัน พอเห็นตกเกือบยี่สิบจุดแล้วตกใจวุ่นวายเลย ซึ่งมันไม่ใช่

พอเราดูกราฟเราจะเห็นว่า อาการตอนนี้จะเรียกว่าไม่ผ่านต้านก็ไม่เต็มปาก

มันเป็นประมานว่ากำลังเทสแนวต้านอยู่มากกว่า ยังไม่ถือว่าหลุดไม่ผ่านเลยไม่ใช่ขนาดนั้น

คนเล่นสั้นมีวิธีวางเงื่อนไขง่ายๆเพื่อดูว่าจะผ่านต้านนี้ไหมควรเซฟตัวหรือยัง ประมานนี้

เช็คโมเมนตั้ม แล้วอาจจะใช้ ตรงเส้นเทรนด์ไลน์แนวรับรอง นั้นเป็นเงื่อนไข หรือ ใช้ ema เส้นสั้นตามแต่ที่เราชอบเป็นเงื่อนไขก็ได้

หลุดก็ถือว่าไม่ผ่านต้าน ลงไปรอแนวรับต่อไปอะไรแบบนี้

ปล่อยให้อารมณ์เป็นเรื่องของตลาดเราทำตามระบบอย่างเดียวพอครับ


กราฟเงินบาทระดับวันเข้ามุมเรื่อยๆ จะเอาไงคงได้เห็นเร็วๆนี้ 8 กันยายน 2014

กราฟเงินบาทระดับวันเข้ามุมเรื่อยๆ จะเอาไงคงได้เห็นเร็วๆนี้

จะเห็นว่าการซื้อขายสุทธิของเซท ช่วงนี้จะ งึกๆงักๆ ชักเข้า ชักออก ส่วนนึ่งก็มาจากการรอดูค่าเงินด้วยนั้นเองครับ

ความสัมพันธ์ และ ความสำคัญ ของค่าเงินบาท ต่อ หุ้น อ่านได้ใน บล๊อกเพิ่มเติมครับ


และถ้ายังไม่หนำใจเรื่อง ฟิโบนัคซี่

และถ้ายังไม่หนำใจเรื่อง ฟิโบนัคซี่ นี่คือีกบทความที่ผมเพิ่งเขียนเมื่อเร็วๆนี้
ถ้าคุณรู้ว่ามันมีลักษณะยังไง ต้นสายปลายเหตุมายังไง คุณจะมีวิธีการใช้มันร้อยแปด พันวิธี ที่อาจจะไม่เหมือนใคร ขึ้นอยู่กับ จินตนาการ ความสามารถในการพลิกแพลงของคุณเอง

ไปอ่านที่นี้ก็ได้ มีข้อความถามถึงแนวรับแนวต้านที่มาจากฟิโบนัคชิจากตัวอย่างกราฟข้างล่าง

ค่ำนี้เอามาฝากเผื่อใครยังไม่เห็น การใช้ ฟิโบนัคซิ fibonucci

ค่ำนี้เอามาฝากเผื่อใครยังไม่เห็น

ผมเห็นว่าคนสนใจ ฟิโบนัคชิกันมาก และข้อมูลในอินเตอร์เน็ต มีแปลกๆเยอะ และเขียนไปงงไป ว่ามันคืออะไร มีต้นตอมาจากไหน ทำไม ถึงต้องใช้ ฟิโบนัคชิ

ท่านที่สนใจไม่ควรพลาดที่จะอ่านจากบทความนี้ ยกตัวอย่างให้เห็นกันง่ายๆเลย

เราใช้แต่ฟิโบดิบๆไม่ได้หรอกครับ เพราะอะไรอ่านดู  การใช้ ฟิโบนัคซิ fibonucci

อีโก(จิต) หรือจะมาสู้ระบบ

อีโก(จิต) หรือจะมาสู้ระบบ

ช่วงนี้ตลาดเช้าขึ้นเย็นย่อ ค่าเงินรวมทั้งการซื้อขายของรายใหญ่ไม่ทำทิศทางชัดเจน ยังไงก็ระวังกันนิด

ยิ่งราคาเข้าใกล้ไฮเดิมยิ่งต้องระวังกัน
เชื่อสัญญานเชื่อระบบ และระวังใจตัวเอง

สำหรับนักเทรดโลกนี้ไม่มีขายหมู เพราะถ้าเบรกแรงเราตามได้ มันคือการจัดการความเสี่ยง

คำว่าขายหมูเป็นแค่คำพูดปลอบจิตใจตัวเอง และเช่นกันดีลที่เพอร์เฟ็คก็เป็นคำพูดเพื่อเลี้ยงอีโก้ตัวเอง
นี้คือสิ่งที่เกิดกับใจเราแล้วจะทำให้เราไขว้เขวจากระบบ ตรงนี้ต้องระวัง

เพราะไม่มีใครรู้อนาคต เราจัดการได้เฉพาะแต่สิ่งที่เห็นตรงๆตามข้อมูลที่มีทำให้มีการจัดการความเสี่ยงเพื่อรักษาผลลัพธ์

และการรักษาผลลัพธ์คือสิ่งที่ระบบให้เราครับ

นั่นคือระบบคือสิ่งที่ยั่งยืนอยากอยู่ในตลาดนานๆต้องหาและรักษาปรับปรุงระบบของเรา

ส่วนจิตใจมันเกิดประเดี๋ยวประด่าว มีปัจจัยให้ได้ หรือเสีย ก็เกิดครั้งหนึ่ง (จิตแบบเดียวกับในพุทธ) แบบนี้เอาแน่เอานอนกับมันไม่ได้ อย่าหลงเอามันมาเป็นหลักในการใช้เทรดครับ

วันอาทิตย์ไม่ต้องพูดไรวิชาการมากมันซีเรียสเนาะ บ่นแนะนำวันสิ้นเดือน 31 สิงหาคม 2014

วันอาทิตย์ไม่ต้องพูดไรวิชาการมากมันซีเรียสเนาะ

ฝากความห่วงใยไปถึง นักลงทุนทุกท่าน ทั้งคนที่ทำงานอื่นๆไปด้วย
หรือลงทุนอย่างเดียว อย่าลืมดูแลตัวเอง ให้เวลาคนรอบข้าง เวลาว่างก็ศึกษาหาความรู้เพิ่ม หนังสือเป็นสิ่งที่ดี เป็นไปได้ก็หาหนังสือใหม่เข้าบ้านอาทิตย์ละเล่มหรือเดือนละเล่มก็ยังดี

ว่างๆวันหยุดก็พากันไปเที่ยว หาอะไรอร่อยๆทาน ใครชอบไปวัดก็ไป ใครชอบดูหนังก็ดู พอมีเวลามากก็ออก ตจว มาสัมผัสความช้าบ้าง จะได้มีพลังกลับไปลุยกันต่อ

หาเงินแล้วอย่าลืมแลกมันเป็นความสุขบ้างเล็กๆน้อยๆเนาะ มีความสุขกันมากๆครับ

ผมไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอทั้งวันแบบนี้ผมเหมาะที่จะใช้เทคนิคคอลหรือเปล่า

มีคำถามเข้ามาที่ข้อความว่า ผมไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอทั้งวันแบบนี้ผมเหมาะที่จะใช้เทคนิคคอลหรือเปล่า

คำตอบขอเอามาลงที่นี้ดีกว่าครับ
ถ้าไม่ได้เล่นหุ้นปั่นแปะแบบว่่าตามใจเจ้าอย่างเดียว หรือเดย์เทรดแบบจบในวันเลย เราก็ไม่จำเป็นต้องนั่งหน้าจอทั้งวันเลยนะครับ(ทั้งสองแบบนี้ผมว่าโอกาสสำเร็จระยะยาวมีน้อยมากกก)

พอเห็นสัญญาเข้าได้ก็เข้าแล้ว หลังจากนั้นเช็คเงื่อนไข อย่างมากวันละครั้งก็เหลือเฟือแล้ว หุ้นทั่วๆไปของไทยเรามันช้า สัญญานมักออกมาเป็นอาทิตย์ครับ

ถ้าเข้าใจเทคนิคคอล เราจะรู้เลยว่าการใช้เทคนิคไม่จำเป็นต้อมีีจอสิบจอใหเฝ้าเหมือนรูปเท่ห์ในอินเตอร์เน็ต

มือถือเครื่องเดียวแล้วจำพินจำพาสเวิร์ดให้ได้ก็เหลือเฟือแล้วครับ ส่วนคอมไว้เปิดหาสัญญานวันว่างๆไป

วันปกติก็ไปเที่ยวไปวัดหรือไปทำงานอื่นๆ แวะเชคราคาเทียบกับเงื่อนไขของตัวเองวันละครั้งก็เหลือเฟือแล้วครับ

ดังนั้นยืนยันเลยว่าการใช้เทคนิคคอล กับคำว่าฉันไม่มีเวลาเฝ้่าหน้าจอทั้งวันมันคนละเรื่องเลย ยิ่งเล่นไทม์เฟรมใหญ่ขึ้นยิ่งใช้เวลาเช็คราคาเทียบกับเงื่อนไขน้อยลง

ดังนุ้นก็เริ่มศึกษาเลยครับ ข้ออ้างนี้ตกไปไกลเลย

เอาตัวอย่างของหุ้นตัวอื่นๆมาให้ลองดูกันเพิ่มเติม เสต็ปการเช็คโมเมนตั้มและวางเงื่อนไข จะคล้ายๆกัน

จากโพสข้างล่างอันนี้ลองเอาตัวอย่างของหุ้นตัวอื่นๆมาให้ลองดูกันเพิ่มเติม เสต็ปการเช็คโมเมนตั้มและวางเงื่อนไข จะคล้ายๆกัน

1 เกิดสัญญานกลับตัว
2 เมื่อเด้งแล้วย่อลงถ้าไม่ต่ำกว่า 61.8% ของที่เด้งขึ้นไปจะสวย แต่ถ้าหลุดต้องไม่ทำนิวโลว์ ตรงนี้ได้สมมุติฐานว่าเป็นเวฟ 1,2 ของขาขึ้น
3 เบรกเทรนด์ไลน์(หรือ ema หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ใช้วางเงื่อนไข)หรือเบรกยอดเวฟ 1 พร้อมกับโวลุ่มพุ่ง

รายละเอียดเยอะๆอ่านโพสก่อนหน้าก่อนนะครับ
อันนี้เป็นตัวอย่างของการหาสัญญานและวางเงื่อนไขในขาลง
เดี๋ยวจะเพิ่มตัวอย่างการวางเงื่อนไขและหาสัญญานออกในขาขึ้นมาให้ชม

ทุกอย่างคล้ายกันเพียงแต่สลับขาขึ้นลงแค่นั้น

รูปของโพสนี้ไปดูในเฟสแล้วกันขี้เกียจก๊อบมาลง

มาลองศึกษาวิธีการดูแรงไปด้วยกันจากหุ้นตัวอย่าง advanc ที่บอกไว้เมื่อตอนเย็นนะครับ


อยากให้มาร่วมฝึกอ่านแรงอ่านโมเมนตั้มกัน ใครว่างๆสนใจลองดู advanc เล่นๆระยะสั้นเพื่อศึกษาเรียนรู้กันดูแล้วคิดยังไง พิมพ์คอมเม้นต์มาได้(ซึ่งส่วนมากไม่ค่อยกล้าพิมพ์ 555) ไว้เดี๋ยวผมจะมาแนะนำวิธีดูแรงว่าน่ารักน่าลุ้นยังไง อีกทีครับ

มาลองศึกษาวิธีการดูแรงไปด้วยกันจากหุ้นตัวอย่าง advanc ที่บอกไว้เมื่อตอนเย็นนะครับ

สำหรับคนที่จับรอบสั้นนะครับ เราจะเล็งอะไรตรงไหนและตอนไหนลองดูอันนี้เป็นแนว แล้วเอาไปปรับใช้ดูครับ

ตัวเลขกำกับในกราฟไม่ใช่เวฟนะครับ เป็นเลขกำกับขั้นตอน

หมายเลข 1 เมื่อราคารีบาวด์แล้วไม่ทำนิวไฮ อันนี้เราก็ตั้งสมมุติฐานเป็นจุดเริ่มของขาลง(เวฟ 1) ตรงนี้สิ่งแรกที่ทำคือลากฟิโบคร่อมเวฟ 1 เลยเพื่อที่เราจะวัดหาขนาดของเวฟ 3,5 การใช้ฟิโบนี้เป็นการวัดเพื่อหาจุดทดสอบแนวต้านแนวรับ ตรงนี้ไปศึกษาเพิ่มได้ในบล๊อกนะครับ ว่าจุดไหนมีนัยสำคัญยังไง ตามจุดต่างๆของฟิโบ เราจะไปเช็คโมเมนตั้มกันที่จุดนั้นว่ามีสัญญานกลับตัวหรือยังครับ

หมายเลข 2 จะเป็นเทรนด์ไลน์ ในขาลงนี้มันมักจะมีเทรนด์ไลน์อย่างน้อยเส้นหนึ่ง หรือมากกว่า ที่เป็นแนวต้านของเทรนด์ ตัวเส้นเทรนด์ไลน์นี้ผมชอบใช้เป็นเงื่อนไขในการเข้า(หรือออกในขาลง) เมื่อเกิดสัญญานกลับตัว(ไดเวอร์เจนซ์) สังเกตดูนะครับ การลากเทรนด์ไลน์แนวต้านทำยังไง (ท่านอื่นอาจจะถนัดใช้ ema ก็ได้ไม่มีปัญหา)

หมายเลข 3 ตรงนี้จะเป็นส่วนของการเช็คโมเมนตั้มแล้วครับ พูดง่ายๆ ใครถนัดใช้ indicator ตัวไหนก็ใช้ตามสะดวก ผมชอบ macd ก็ใช้ตามตัวอย่าง ตรงนี้เราจะหาจุดที่แสดงสัญญานกลับตัว(ไดเวอร์เจนซ์) ถ้าไม่รู้ว่าหายังไง ดูในบทความเก่าในบล๊อกก็ได้ครับ ราคานิวโลว์ อินดิเคเตอร์ไม่นิวโลว์ด้วย อะไรประมานนั้น

หมายเลข 4 ตรงนี้เรามักใช้ร่วมกันกับทั้ง 3 อันแรก คือ การดูโวลุ่ม ผมจะยกตัวอย่างแบบนี้นะครับ ในจุดที่3 เมื่อเกิดสัญญานกลับตัว (ไดเวอร์เจนซ์) โดยปกติโวลุ่มมักน้อยเพราะคนจะรอดูมากกว่าว่า มันจะหลุดต่ำลงไปอีกไหม ถ้าออกข้างไปเรื่อย จนไปชนกับเทรนด์ไลน์ของ หมายเลข 2 แล้วเบรกขึ้นได้ ตรงนี้ให้ดูโวลุ่มเลย ถ้าเบรกจริงโวลุ่มพุ่งแน่ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นจังหว่ะเข้าที่ดีอีกจังหว่ะหนึ่ง ถ้าเบรกแบบที่ว่าก็แบ่งไม้เข้าตามแผนที่วางไว้

หรือ ถ้าชนเทรนด์ไลน์(หรือไม่ชนก็ได้) แล้วราคาลงต่อ เราก็เลื่อนไปรอดูแนวรับถัดไปของ fibo จากหมายเลข 1 เมื่อรอดูตรงนั้นแล้วเช็คโมเมนตั้ม ที่หมายเลข 3 แล้วยังมีสัญญานกลับตัวอยู่ ตรงนี้มันก็เป็นจังหว่ะที่ดีมากๆๆๆ ที่เราจะแบ่งไม้เข้าเก็บตามแผนที่วางไว้ จำไว้ ราคามันกดกันได้ แต่โมเมนตั้มมันไม่หลอกกัน ราคาลงแต่โมเมนตั้มไม่ลงนี้ชอบมาก ถ้าเจอแบบนี้ผมมักจะตื่นเต้นจนมือสั่น 5555

ตรงนี้ลองไปฝึกใช้ฝึกสังเกตกันดู สำหรับคนที่เล่นรอบเร็ว(1-4 เดือนแล้วแต่หุ้น) ฝึกกับหุ้นตัวอื่นๆด้วย ฝึกมากๆตีกราฟทุกวันแล้วคุณจะได้ทาง

เหมือนกันกับหัดปั่นจักรยานแหละครับ นั่งดูนั่งคิดมันไม่เป็นนะ มันต้องลองปั่น สุดท้ายพอเคยหัวเข่าถลอกแล้วมันจะรู้เองว่าต้องทำยังไงระวังอะไรโดยอัตโมมัติ

พอได้หลักการวางเงื่อนไขเพื่อ เข้า ออก คัทลอส แล้ว ต่อไปวิธีการบริหารหน้าตักจะมาเอง คุณจะรู้ได้ว่าคุณรับความเสี่ยงจากจุดนี้ได้แค่ไหน คุณควรจะแบ่งไม้เข้าออกยังไง มันจะทำให้เกิดระบบ

พอเกิดระบบแล้วขั้นต่อไปก็จะเป็นการปิดข้อเสียของระบบละครับอันนั้นค่อยว่ากันอีกที วันนี้ลองศึกษาแบบนี้กันดูครับผม



 แล้วก็หยอดไว้เล็กน้อยสำหรับการวางเงื่อนไขเริ่มต้นขาขึ้น ทำเหมือนขั้นตอนแรกของขาลง ถ้าราคาย่อแต่ไม่ทำนิวโลว์ เราก็ลากฟิโบคล่อมจุดที่คาดว่าจะเป็นเวฟ 1 ของขาขึ้นไว้ ยิ่งถ้าราคาย่อลงมาแล้วไม่หลุด 61.8% มันก็ยิ่งได้ลุ้น ณ จุดนี้ถ้าทำนิวโลว์ก็ดูโมเมนตั้ม ถ้าเบรกเส้นเทรนด์ไลน์สีขาวในกราฟ ก็ดูโวลุ่มประกอบ 

ถ้าคุณคล่องตรงนี้และไม่ได้บริหารพอร์ทพันล้านหมื่นล้าน คุณจะอยู่รอดในตลาดได้สบายๆ ตลาดหุ้นไทยเราง่ายกว่าที่คุณคิด


บ่นในเฟส เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2014

กฏหมายไทยเรามีเอกลักษณ์ยากที่จะมีใครเหมือน เพราะเรามีกฏหมายเวอร์ชั่น เอาจริง และ เวอร์ชั่นไม่เอาจริง

สังเกตดูที่กฏหมายจราจร ช่วงนี้จะมีกฏหมายเอาจริงออกมาบ่อยๆนะครับ ช่วงก่อนๆเราใช้กฏหมายเวอร์ชั่นไม่เอาจริงกันรู้ตัวไหม

ใช้ฟิวเจอร์แก้ไขจัดการราคาสินค้าเกษตร

ผมเคยเขียนไว้เกี่ยวกับการส่งเสริมให้ใช้ฟิวเจอร์แก้ไขจัดการราคาสินค้าเกษตร

ตอนนี้มาเห็นราคายางแล้วไม่ผิดทีพูดไว้เลย ต่างกันนิดนึงคือผมทายว่าคนจะต้องประท้วงตลอดไปถ้าไม่ให้ความรู้พวกนี้

แต่ของจริงคือตอนนี้คนยังไม่กล้าประท้วงแค่นั้น

ยางเป็นคอมโมดิตี้มีรอบของมันก็จริง แต่ไปดูสวนยางเมืองนอกเสียก่อน กรีดได้เมื่อไหร่ ของล้นตลาดแน่ ราคาจะกลับไปแบบเดิมอีกคงไม่ง่าย

การใช้ฟิวเจอร์มาแก้ปัญหาจะทำใหเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกได้ถูกและควบคุมต้นทุนได้ดี หรือแม้แต่ *คัทลอสทางกสิกรรม*

รัฐก็ยังคงชูนโยบายหาเสียงแบบประชานิยมผ่านการให้สัญญาฟรีหรือราคาถูกกับเกษตรกรรายย่อยได้ เกษตรกรได้พัฒนาความรู้ไปด้วยอีก

ทั้งหมดนั้นคือ จำนำ+ประกัน แต่ผ่านกลไกตลาดในฟิวเจอร์

ทำได้ยังไงไว้จะมาเขียนต่อ

แนะนำว่าเทคนิคคอลคืออะไรสำหรับคนเริ่มสนใจศึกษา วิเคราะห์หุ้น

บทความตามลิงค์ข้างล่างนี้ผมอยากให้นักลงทุนทุกท่าน ทั้งมือกลางเก่ากลางใหม่ได้อ่าน ตัวนี้ผมพยายามจำกัดความว่าเราดูกราฟเราใช้เทคนิคคอลไปเพื่ออะไร สิ่งไหนคือสิ่งที่เรามองหา

อ่านแล้วรับรองว่าหลายๆท่านจะบอกว่ามันธรรมดาอย่างนี้เลยเหรอ ลองดูครับ

อ่านตรงนี้แล้วค่อยๆศึกษาไปด้วยกันกับ Thai Trader ที่นี้มีอะไรถามได้ตลอดๆ ช่วยกันหาความรู้เรื่องหุ้นครับ

การอ่านกราฟหุ้นคืออะไร เทคนิคคอล คืออะไร เราได้อะไรจากกราฟหุ้น ต้องมาอ่านบทความนี้ก่อนครับ 


โพสรวบต่อเนื่องจากเฟสบุค
1 เราไม่อ่านใจคนคนเดียวเราจึงต้องเข่าใจค่าเฉลี่ย

2 คนเราไม่พร้อมใจกันทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยไม่ได้นัดหมายเราจึงต้องเข้าใจวิธีการหาจังหวะ การเทสเพื่อหาความมั่นใจของคนในตลาด

ข้อแรกคือโมเมนตั้ม
ข้อที่สองคือการกำหนดแนวรับแนวต้านและจังหวะในอีเลียทเวฟ

เมื่อรู้สองสิ่งนี้คุณจะมีระบบ และก็สามารถออกแบบการจัดการทุนของตัวเองได้
เข้าถึงแล้ว 

ทองคำช่วงเดือนสิงหาคม 2558

ผมไปพักผ่อนกลับบ้านหาผู้มีพระคุณมาร่วมสองอาทิตย์ ไม่่ได้เปิดคอมเลย เรียกได้ว่า วันนี้เห็นเขาสาดน้ำเย็นราดหัวกันก็ยังงงๆอยู่ว่าคืออะไร ตกข่าวไปไกลเลย

กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง วันนี้มาเช็ค เซท เงิน ทอง ของวันศุกร์ กันหน่อย

เอาที่ทองกันก่อน กราฟกว้างๆของรอบขาลงนี้ มันยังไม่มีไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยโพสไปรอบก่อนๆมากนัก แต่ว่ามีกรอบให้ต้องจับตานะครับ เป็นกรอบสามเหลี่ยมแนวรับแนวต้าน ที่ลูกศรสีแดงชี้อยู่นั้นแหละ

ตรงนี้มันบีบเข้ามุมแล้ว ทองมีสิทธิ์เบรกได้ทั้งสองทางทั้งแนวรับแนวต้าน เข้ามุมแบบนี้ต้องจับตาแล้วครับ

โดยมีเงื่อนไขแบบนี้
1 ถ้าเบรกลงทะลุแนวรับ รับสำคัญคือแถวๆ 1200-1180 ตรงนี้จับตาดู macd สิครับ ถ้าลงถึงจริงเป็นโอกาสที่ดีมากครั้งหนึ่งเลย ลงไปถึงไม่หลุด จะเป็นจุดที่คนทั้งโลกจะมั่นใจพร้อมกันว่า "ณ เวลานี้โลกนี้ไม่เห็นด้วยกับทองที่ราคาต่ำกว่านั้น" ถ้าเกิดแบบนั้น จะมีคนส่วนหนึ่งกลัวไม่กล้าซื้อ แต่คนอีกส่วนเยอะมากที่ติดตาม มั่นใจในราคาครับ ตรงนี้สำคัญนะ

2 ถ้าเบรกแนวต้าน(ซึ่งตรงนี้ผมให้น้ำหนักมากกว่า) อันนี้ต้านสำคัญคือ 1420 ถ้าเบรกได้ ไปสำคัญที่สุดที่จะถือว่าเป็นจุดวัดว่าจบขาลงที่ 1570 หรือที่ 4iv จากในกราฟ ตรงนี้ถ้าเบรกได้ก็จะมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีคนได้ลงดอย หลังจากนั่งหนาวมาสามปี แต่ถ้าเบรกไม่ได้ ก็ต้องมาว่ากันอีกที เพราะจะมีเงื่อนไขแนวรับอีกหลายจุด เพื่อตัดสินใจว่าเป็นย่อเพื่อขึ้น หรือย่อเพื่อลง (ถ้าย่อเพื่อลงก็เป็น เวฟที่ 4v)

ในส่วนของเวฟและโมเมนตั้ม ดูดี ตอนนี้ถ้ายังไม่มีรอเบรกอย่างเดียว

เรื่องเทคนิคคอลเป็นการดูว่าคนเราอยากซื้อหรืออยากขายมากหรือน้อยแค่ไหน ความมั่นใจเกิดหรือยัง ทั้งหมดทั้งมวลนั้น เราวิเคราะห์ได้จากการเข้าใจคุณลักษณะของข้อมูลราคาที่เก็บมา รวมถึงลักษณะพิเศษของ indicator ต่างๆที่สร้างขึ้นมาช่วย ตรงนี้คือสิ่งสำคัญ มันไม่ใช่เรื่องของการจินตนาการเอาเองจากภาพของกราฟ

แต่กราฟนั้นช่วยให้เรามองข้อมูลให้เห็นเป็นภาพได้ง่ายขึ้น

เดี๋ยวมาต่อเงินบาท กับ เซท กัน


ว่าด้วยเรื่องหุ้น วิเคราะห์เซท อินเด็กซ์

เดี๋ยวจะลืมกันไปก่อนโพสน้อยช่วงนี้555
ยังแวะมาเตือนจุดต้านสำคัญอีกที คือ

ถ้าราคาไปถึงไฮเดิมแถวๆที่วงกลมแดงๆ วงล่างนั้นก็ต้องเริ่มเช็คโมเมนตั้ม และถ้ามีสัญญานการอ่อนตัวที่ macd นั้น(ซึงน่าจะมี) ก็คงต้องระวังนิดหนึ่ง

แต่ถ้าเบรกได้จุดเช็คยาวๆจุดต่อไปก็ตรงกลมๆแดงๆ อันบนครับ แต่ถ้าไปถึงตอนนั้นจริงๆ คิดว่าต้องระวังแนวต้านย่อยๆระหว่างทางอีกเยอะเลย ทุกแนวต้านย่อยต้องซีเรียสทิ้งไม่ได้เลยครับ หมั่นเช็คแรงเอา

#อันนี้ความเห็นส่วนตัว เอาไปลบหารกันเอง ยังเหมือนเดิม คือต้องระวัง เหมือนบทความที่เคยเขียนเก่าๆ ฝรั่งมันไม่ได้ซัดโป้งขนเงินมาแรงๆเหมือนรอบก่อนนะครับ(จนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรชัดดูเหมือนจะเล่นเงินเก่าที่อยู่ในตลาดค้างมาจากรอบก่อนมากกว่า) ฝรั่งไม่ขนมาก็คนไทยเล่นกันเองหมดรอบก็หนีให้ทัน

ช่องกำไรมันแคบลงตัวใหญ่ๆเขาเคลื่อนที่ช้าเพราะเงินเยอะ เขาเลยไม่ขนลงหมดตักแบบรอบก่อน

จากเวฟ ถ้าจบ 3v ก็คือจบรอบใหญ่ของเวฟ 3 เตรียมทำเวฟ 4 ซึ่งมันมีช่องย่อได้เยอะ รอบใหญ่นี้ใหญ่แค่ไหน คำตอบคือมันก็เดินทางมาห้าปีแล้ว และกว่าจะไปถึงเวฟ 5 นี่ก็คงอีกหลายปีอยู่ จังหว่ะดีๆระยะยาวก็มีช่วงให้เล่นกันต่อแยะ แต่ถ้าไม่สนไม่เช็คไม่ศึกษาอะไรเลยเล่นชิลๆ เดี๋ยวก็อาจจะถอดใจแบบก่ายหน้าผากได้

สำหรับนักเก็งกำไร สิ่งสำคัญคือ ขาขึ้นต้องเช็คแรงจุดออกอย่าได้ขาด ส่วนขาลงเช็คแรงหาจุดเข้าอย่าได้หยุดเช่นกัน

#คนไล่ราคาขึ้นน้อยลงก็เซฟตัวเอง
#คนไล่ราคาลงน้อยลงก็เตรียมเงื่อนไขเข้า

ไว้เดี๋ยวจะมาอัพเดตเรื่อยๆนะครับ เว็บโฉมใหม่คงได้เร็วๆนี้

บ่นหุ้น บันทึกเมื่อ 1 สิงหาคม 2014

ถ้า 1490 ตรงนี้เอาไม่อยู่ รับสำคัญจะอยู่แถวๆ 1465-1475 ตรงนี้ มันเป็นกรอบเทรนด์ไลน์ระดับวันพอดี ซึ่งถ้าหลุดอันนี้นี่เริ่มไม่ค่อยดี ตรงนี้รอดูอีกนิดใกล้ถ้าดิน แนวรับแรกให้ได้เทส ก็วางเงื่อนไขกันไว้เลยครับ

เป้าไกลๆหน่อยยังเหมือนเดิมลุ้นไปถึงไฮเดิมอยู่

ข่าวเศร้าแห่งปี หนุ่มเครียด! เล่นหุ้นหมดตัว ดิ่งตึกคอนโดชั้น 7 ดับ

มันเศร้าครับขอให้ผู้ตายไปสู่สุขติ

ส่วนเราๆที่ยังอยู่ในตลาด ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ ความรู้พร้อมแล้ว อย่างน้อยที่สุดมันช่วยให้เราถึงไม่ได้ก็จะไม่เสีย เอาตัวรอดได้ก็เตรียมเดินทางสู่ขั้นต่อไปครับ ความรู้สำคัญมาก

ความสำเร็จในสิ่งอื่นไม่ได้การันตีว่าเราจะสำเร็จเหมือนกันในตลาดหุ้นครับ

ข่าวต้นตอ http://news.sanook.com/1640153/

อัพเดตหุ้น rojna

ตอนนี้ยังลงโปรแกรมไม่ครบทำกราฟใหม่มาลงลำบากงั้นเอากราฟเก่าไปต่อเป็นกรณีศึกษาก่อนนะครับ

จาก โพส rojna ข้างล่างถ้าวันนี้จัดโปรแกรมลงคอมพ์ใหม่เรียกร้อยจะมาอัพเดตกราฟระยะสั้นให้ศึกษากัน ใครเปิดอยู่ลองดูกราฟระยะสั้น ที่ผมแนะนำจุดระวังในโพสเดิมนั้นไว้ ลองสังเกตดูตรงที่ชี้บอกว่าให้จับตาไดเวอร์เจนซ์แถวๆfibo 361.8% จากเวฟแรก ถ้าราคาไปถึงแล้ว macd ไม่ทำนิวไฮด้วยก็ระวังดีๆ

ตรงนี้ท่านจะเห็นแนว แล้วลองคิดต่อไปโดยดูกราฟระยะกลางและยาวประกอบว่า ถ้าตรงนี้คือจบรอบสั้นจริง เราจะไปวางเงื่อนไขจับต่อ ที่จุดต่อไปตรงไหนยังไง ไม่หลุดตรงไหนถึงถือว่าเป็นฟอร์มของเวฟ 1 2 ของขาขึ้นที่ใหญ่กว่า

คิดรอไว้ก่อนเดียวมาเรียนไปด้วยกันครับ

หนุ่มทำคลิปล้อเลียนสร้างรายได้มหาศาลใน Youtube

YouTube Comedy Star Pays Off Parents' $340,000 Mortgage

จากข่าวข้างบนนี้
ถ้าใครชอบดูคลิปในยูทูปที่เป็นพวก parody ล้อ หรือ แรปตลกๆ ลามกหน่อยๆน่าจะเคยผ่านตาหรืออาจจะเป็นแฟนคลับของหนุ่มเอเชียคนนี้มาบ้าง

ที่จริงแล้วพ่อแม่เขาเป็นคนไทยที่ย้ายไปอยู่อเมริกาเปิดร้านอาหารที่โน้น ผมเห็นคลิปและข่าวนี้แล้วประทับใจจริงๆ

คือการที่เขาควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าบ้านให้พ่อแม่เป็นเงินก้อนกว่าสิบล้าน มันแสดงให้เห็นความเป็นคนกตัญญูแบบไทย หรือ เอเชี่ยนออกมาแบบชัดเจน (ขัดกับที่เราเห็นในงานของเขามาก) ฝรั่งคงงงหน่อยว่าจะไปจ่ายให้ทำไม แต่คนไทยเราเห็นแล้วซาบซึ้ง น้ำตาซึมไปด้วย

จากที่เห็นงานเขาเก่าๆนึกว่าจะเป็นอเมริกันจ๋า แล้วเงินเหลือเอาไปเที่ยว หรือ เล่นยาแบบแรปเปอร์เพลย์บอยที่เราเห็นในทีวี ความจริงมันกลับไปคนละแบบเลย

คนกตัญญูทำอะไรก็เจริญครับ ยกนิ้วกดไลค์ให้เลย คุณพ่อคุณแม่ ยิ้มแก้มแทบปริ

ข่าววงในที่แสนจะน่าตลก คนเล่นหุ้นแล้วเอาแต่เชื่อเรื่องนี้ก็คงรวยกันละ

ในห้วงช่วงเวลาหุ้นขึ้นนั้น หุ้นลับหุ้นเด็ด ข่าวโคตรจะวงใน ต่างๆจะระดมกันออกมาจากหนังสือพิมพ์เอย เว็บไซต์เอย หรือแม้แต่เพื่อนสนิทมิตรสหายใกล้ตัว

คำแนะนำประจำใจจากเพจ thaitrader มีง่ายๆ

1 ข่าวดีต่างๆที่ไม่ปัจจุบันทันด่วน เช่น ได้งานเพิ่ม ผลประกอบการ(จะ)ดี พวกนี้มีไทม์ไลน์มีแผนในการปล่อย(และออกมาช่วงนี้เยอะมาก555)

2 หุ้นเด็ดๆที่ได้ฟังมาส่วนมากมักไม่มีเหตุผลที่จับต้องได้มากไปกว่า "เขาว่ามา" อันนี้ระวังให้ดี(หุ้นเด็ดพวกนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะเอาไปเช็คตามวิธีของเราก่อน ในที่นี้ผมก็คงแนะนำให้เช็คแรงเช็คเวฟตามที่เราคุยกันมาตลอด)

3 เหนือสิ่งอื่นใด ทำตามแผนเดิมระบบเดิมดีที่สุด เช่นถ้าใช้เทคนิคคอล มันก็สามารถเช็คได้อยู่แล้วว่าหุ้นตัวนั้นๆ ควรทำยังไง มันดีมันเด็ดตามที่ "เขาว่ากัน" หรือไม่ ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธหุ้นกระซิบพวกนี้ แต่เราต้องเช็คตามวิธีของเราก่อนถึงจะลงมือเข้าออก

4 สำหรับขาเทคนิค มันไม่มีไรมากไปกว่า มีสัญญานออกมาให้เห็น เราก็วางเงื่อนไขแบ่งไม้ เข้า-ออก ตรงนี้เขียนบ่อยอธิบายแบบละเอียดเลยในโพสตัวอย่างเก่าๆ และคิดว่ายกตัวอย่างแบบประจักษ์ให้เห็นทางเหตุและผลแล้วลองอ่านย้อนกันนะครับ

ถ้าเรามองเห็นชัดเจนในเรื่องสามสี่ข้อนี้ เวลาข่าวออกมานี่ยิ้มเลยจริงๆ หุ้นหลายตัวออกลายให้เห็นก่อนข่าวออกสักพักทั้งนั้น ถ้าเราซื่อตรงกับระบบเราจะอยู่ในนั้นและเราจะเห็นชัดๆเลยว่ามันมีไทม์ไลน์

พอเราได้ยินหุ้นเด็ดมาก็ยิ้มอีกครั้งไม่มีไรมาก เข้าไปเช็คตามวิธีของเราก่อน แล้วเราจะเห็นกับตาเองว่ามันดีตามที่ "เขาว่ามาไหม" ควรเชื่อตามไหม

คือทุกวันนี้ทั้งข่าวกับการให้หุ้นนี้มันแปลกประหลาดไม่ต่างกับขอเลขเจ้าพ่อหวย นั่งอ่านดูไม่มีเหตุผลหรืออะไรที่พยายามจะชี้ให้เห็นว่ามันจะดีแบบที่อ้างสักนิดครับ ขอเตือนแบบซีเรียสให้ระวังจริงๆ

และควรหาความรู้เพิ่ม ย่อยให้มันเป็นของตัวเอง เป็นระบบของตัวเราเองให้ได้

สร้างต้นตะเคียนขูดหาหวยของตัวเองในแบบที่เรารู้ที่มาที่ไปของผลลัพธ์ของมัน อันนี้สำคัญสุดๆครับผม

เงินคืออะไร คุณเข้าใจมันดีจริงหรือ

สมัยก่อนตอนเริ่มสร้างเงินมาใช้ใหม่ๆ ก็แค่เพื่อจุดประสงค์ให้สะดวกต่อการขนย้ายแลกเปลี่ยนสินค้า เช่นจะเอาช้างไปแลกม้าบางทีมันลำบากก็เอาเงินไปเลยแล้วไปซื้อช้างม้าในที่ๆตัวเองสะดวกเอาดีกว่า

หลังจากเงินได้รับความนิยมมากขึ้นก็มีการใช้เงินในทางที่แปลกขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นตัวหลักประกันอำนาจ การหากำไรจากส่วนต่างของเงินสมมุตินี้เป็นต้น ซึ้งทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ยังคงคอนเซปป์เดิมคือ "เพื่อแลกเปลี่ยนเอาสิ่งที่เราอยากได้"

จนมาถึงปัจจุบันนี้การใช้เงินเริ่มแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้เงิน "เพื่อแลกเปลี่ยนเอาสิ่งของที่คิดว่าคนอื่นอยากได้"

ประเภทที่ซื้อสิ่งของบางอย่างเพียงเพื่อให้ไม่อายใคร หรือถ้าซื้อของอีกอย่างหนึ่งอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีเพราะว่าไม่ได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ

มันเป็นการใช้เงินที่ผิดแผลกแปลกประหลาดมาก

ทำงานแลกเงินมาเหนื่อย เอาเงินนั้นไปแลกของที่คุณอยากได้เถอะครับ "อย่าเอาไปแลกของที่คิดว่าคนอื่นอยากได้เลย"

ช่วงนี้คอมเจ็งไม่ค่อยได้มาอัพเดตพิมพ์ผ่านไอแพดก็ลำบากจัง เพราะคอมเจ็งเลยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ เรื่องที่เขียนข้างบนนี้ มาบ่นให้ฟังฮ่าๆๆๆ

กลับมาตีกราฟที่แนะนำกันมาตั้งแต่วันที่ 4 อีกทีนะครับ เริ่มที่ตัว rojna

กลับมาตีกราฟที่แนะนำกันมาตั้งแต่วันที่ 4 อีกทีนะครับ เริ่มที่ตัว rojna

ดูที่ภาพรวมๆก่อนว่าแนวต้านหลักรับหลักอยู่ที่ไหน กรอบนี้ เริ่มมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 52 แล้วครับ ก็ถือว่าเป็นกรอบแนวรับแนวต้านหลักที่สำคัญของช่วงนี้ ตรงนี้ถ้าเอาง่ายๆเลยไม่ต้องใช้คำยาก ราคาอยู่ใกล้เส้นเทรนด์ไลน์แนวรับก็จับตาหาจังหวะเข้าไปชิดเส้นเทรนด์ไลน์แนวต้านก็ระวังเริ่มวางเงื่อนไขถ้าหลุดออก สำหรับคนเล่นยาวๆก็จะประมานนี้ครับ

ระยะกลางหน่อย เพื่อดูว่าในขาลงที่ผ่านมา ที่เริ่มตั้งแต่กุมพาปีก่อน มาถึงตอนนี้มันเป็นยังไงถึงไหน ลองดูที่ macd จะเห็น divergence มาตั้งแต่เดือนสิงหาปีก่อนแล้วครับ เกิดแบบนี้ก็คือ คนไล่ราคาขายช้าลงเรื่อยๆ ถ้าคนซื้อขายไม่ดูเลยก็คงกลัวที่ราคามันต่ำลงทุกวัน ทั้งที่จริงๆราคาใกล้แนวรับสำคัญแล้ว ถ้าเจออาการแบบนี้ ปกติก็เริ่มเก็บกันเรื่อยๆ มีจุดคัทลอสที่เส้นเทรนด์ไลน์แนวรับหลัก นั้นแหละครับ หลุดนั้นถึงคัทให้เร็ว

ตัวนี้ไปเปิดดูกราฟเก่าเคยทักไปตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ตอนนั้นจะอยู่ช่วง iv ก่อนจบเวฟ 5 ตามนี้ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=642904525746422&set=a.205203229516556.43320.205203022849910&type=1&theater

ส่วนกราฟสุดท้ายระยะสั้นๆ ของตอนนี้ ถ้าท่านที่อยากศึกษาเวฟลองดูจะรู้ว่าระยะสั้นนี้คือเวฟไหน(ลองตอบลองทักมาได้ไม่ต้องกลัวผิดถือว่าแชร์กันครับ)

จุดระวังที่ต้องจับตามีสองสามจุด คือที่ลูกศรชี้ไปที่ macd และ ราคาตรง 361.8% ขึ้นไป ซึ่งก็คือถ้าราคาทำไฮเดิมหรือนิวไฮ ถ้าราคาไปถึงแล้วก็ดู macd ว่าทำ นิวไฮด้วยไหม ถ้าทำก็ไปต่อกับมัน ถ้าไม่ก็แสดงว่าแรงไล่ระยะสั้นเริ่มอ่อน เริ่มระวัง อาจจะหมดรอบเวฟ 1 ขาขึ้นใหญ่แล้ว รอจังหวะดูเวฟ 2 ว่าจะจบที่ไหนแน่นอนถ้าราคาไม่ทำนิวโลว์ ก็แสดงว่า rojna มันยังดูดีที่จะวิ่งตามกรอบเทรนด์ไลน์ของกราฟสัปดาห์นั้นอยู่

ถ้าย่อแล้วอาจจะเป็นการจบรอบเวฟ 1 ขาขึ้น โดยที่เรามีเงื่อนไขต่อไปอีกว่า วัดจากโลว์6 บาทกว่านั้นไปถึงยอดที่ยังไปไม่ถึงในตอนนี้ ถ้าราคาย่อลงมาไม่ต่ำกว่า 61.8% จะสวยในแง่ของการเป็นเวฟ 2 ของขาขึ้นหลักครับ

ลองเอาไปศึกษากันดูอ่านรอบแรกยังไม่เข้าใจก็อ่านอีกรอบ ตรงไหนที่คิดว่าฟังดูทะแม่งๆแอดมินมันมโนเอาเปล่า ก็ถามได้ คือทุกส่วนของเทคนิคคอลที่พูดลงตรงนี้มีที่มาที่ไปปลีกย่อยที่เข้าใจได้ ซึ่งถ้าเอารายละเอียดมาลงหมดมันจะยาว แต่ท่านที่ติดตามมาตลอดจะรู้เรื่องอยู่แล้ว สามารถอธิบายย่อยๆในคอมเม้นต์ได้ครับ

(ที่จริงผมไม่ค่อยสบายใจกับพวกที่บอกว่าอันนี้ตัดนี่ให้ทำนั่น แท่งเทียนตรงนี้วางแบบนี้ให้ทำโน้น ถามต่อว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ตอบเป็นภาษาคนไม่ได้ตรงนี้เซ็งตั้งแต่ตอนเริ่มศึกษาแรกๆเหมือนกัน คือมันเหมือนมโนเอาไม่มีที่มาที่ไป 555)

ไว้เดี๋ยวตัวอื่นๆจะมาว่าต่อ ตอบช้าหน่อยแต่ตอบทุกคนแน่ๆครับ